วิกฤติ 10 จังหวัดใต้จมบาดาล ‘การค้า-ท่องเที่ยว’ เสียหายวันละพันล้าน

สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ขยายวงกว้างขึ้น โดย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา น้ำท่วมขยายวงกว้าง และฝนที่ตกหนักทำให้สถานการณ์น้ำท่วมกระจายมากขึ้น โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานวันที่ 24 พ.ย.2568 มีพื้นที่น้ำท่วม 10 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวมพื้นที่ 92 อำเภอ, 581 ตำบล และ 4,146 หมู่บ้าน

ทั้งนี้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 719,858 ครัวเรือน รวมประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 1.91 ล้านคน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า รัฐบาลสั่งการให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ระดมความช่วยเหลือทั้งเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องปั่นไฟ โดยประเมินว่าจะบริหารจัดการสถานการณ์เข้าสู่สภาพปกติได้ภายในสัปดาห์นี้ 

“ตอนนี้มีปริมาณน้ำฝนมาก เมื่อวันอาทิตย์ที่ลงพื้นที่มีฝนตกตั้งแต่เช้าจดเย็น เป็นเหตุให้น้ำท่วมเพราะระบายไม่ทัน เนื่องจากมีน้ำหลากเติมมาจาก อ.สะเดา ขณะนี้ทราบว่าปริมาณฝนและน้ำหลากขยายพื้นที่ลง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทางผู้ว่าราชการ 3 จังหวัดชายแดนใต้เตรียมแผนรับมือแล้ว”

ส่วนการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนนั้นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติกรอบไว้แล้วเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2568 รวมทั้งได้เตรียมงบประมาณแล้ว โดยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งสำรวจผู้เข้าข่ายที่ได้รับการเยียวยาเพื่อไม่ให้ล่าช้า

 

ทั้งนี้ มาตรการเยียวยาที่ ครม.อนุมัติจะช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท ครอบคลุมกรณีน้ำท่วม ดินถล่มและทรัพย์สินเสียหาย รวมถึงน้ำท่วมขังหรือล้อม จนประกอบอาชีพไม่ได้เกิน 7 วัน โดยกรณีน้ำท่วมขังเป็นเวลานานจะเยียวยาเพิ่ม ดังนี้

1.กรณี 31-60 วัน เยียวยาครัวเรือนละ 5,000 บาท

2.กรณี 61-90 วัน เยียวยาครัวเรือนละ 10,000 บาท

3.กรณี 91-120 วัน เบียวยาครัวเรือนละ 15,000 บาท

4.กรณี 121 วันขึ้นไป เยียวยาครัวเรือนละ 20,000 บาท

ม.หอการค้า ชี้เสียหายวันละพันล้าน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคใต้ในขณะนี้ เบื้องต้นประเมินว่าจะมีความเสียหายประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาทต่อวัน เนื่องจากเป็นจังหวัดที่อิงกับเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนของภาคใต้เป็นหลัก

ทั้งนี้ ถ้าหากสถานการณ์ยังยืดเยื้ออย่างต่อเนื่องใน 1 เดือน ประเมินว่าจะมีความเสียหายประมาณ 10,000-15,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของภาคการท่องเที่ยวและจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวภาคใต้จำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าว

มาเลเซียยกเลิกเดินทางทั้งหมด

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับการติดต่อสอบถามจากผู้ประกอบการมาเลเซีย 15 ราย จากบริษัททัวร์ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT)  เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

รวมทั้งสัปดาห์นี้นักท่องเที่ยวมาเลเซียจะยกเลิกการเดินทางทั้งหมด (Total Cancellation) สำหรับเส้นทางท่องเที่ยวภาคใต้ เพราะน้ำท่วมยืดเยื้อและความไม่มั่นใจด้านความปลอดภัย 

ทั้งนี้ สื่อกระแสหลักมาเลเซียรายงานข่าวน้ำท่วมและนักท่องเที่ยวมาเลเซียติดค้างในหาดใหญ่ต่อเนื่อง ทั้งโทรทัศน์ เว็บไซต์ข่าว รวมถึงโซเชียลมีเดีย ทำให้นักท่องเที่ยวกังวลอย่างกว้างขวาง รัฐบาลมาเลเซียประกาศเตือนภัยน้ำท่วม (Flood Warning Alert) ให้ประชาชนเลี่ยงเดินทางไปภาคใต้ของไทย ส่งผลให้ความต้องการเดินทางลดลงทันที และมีแนวโน้มหยุดเดินทางระยะสั้น

สื่อมาเลย์เกาะติด “น้ำท่วมหาดใหญ่”

จากรายงานข่าวของสื่อมาเลเซียตั้งแต่วันที่ 21-24 พ.ย.2568 เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และพื้นที่ใกล้เคียง ระบุว่าตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พื้นที่ จ.สงขลา มีฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำท่วมฉับพลันและระดับน้ำสูงขึ้นเร็ว ทำให้คนไทยและนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ได้รับผลกระทบหรือติดค้างในโรงแรม หรืออยู่พื้นที่อพยพได้ไม่สะดวก

ตามการรายงานของกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซีย มีชาวมาเลเซีย 4,000 คน อยู่ในพื้นที่หาดใหญ่และใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบ โดยชาวมาเลเซียหลายรายที่ติดอยู่ในโรงแรมหรือที่พัก ได้รับอาหารและความช่วยเหลือขั้นพื้นฐาน แต่มีรายงานว่าต้องแบ่งและอดกลั้น เพราะร้านค้าปิดหรือเข้าถึงยาก และไฟฟ้ากับการสื่อสารบางจุดขัดข้อง

ทั้งนี้ สถานกงสุลมาเลเซียประจำสงขลา ได้ประสานกับหน่วยงานไทยเพื่ออพยพและเคลื่อนย้ายนักท่องเที่ยวและผู้ได้รับผลกระทบ โดยแจ้งให้ชาวมาเลเซีย “รอที่ล็อบบี้โรงแรม” เพื่อความสะดวกในการอพยพ 

น้ำท่วมกระทบอสังหาฯหาดใหญ่

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า น้ำท่วมมีผลกระทบโดยตรงต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหาดใหญ่ โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย ซึ่งช่วงครึ่งแรกปี 2568 ในพื้นที่หาดใหญ่มีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขาย 128 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 41,560 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบ้านจัดสรร

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์น้ำท่วมพบว่าบ้านจัดสรรและโครงการคอนโดมิเนียมได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน โดยเฉพาะบ้านชั้นเดียว เช่น บ้านเดี่ยว 1 ชั้น บ้านแฝด 1 ชั้น และทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว น้ำท่วมทำให้โครงสร้างภายในบ้านเสียหาย เฟอร์นิเจอร์และวัสดุก่อสร้างได้รับความเสียหาย รวมถึงการซ่อมแซมระบบไฟฟ้าและท่อประปาภายในบ้านต้องใช้เวลาและต้นทุนสูง

“คอนโดมิเนียมหลายโครงการ โดยเฉพาะชั้นล่างหรือชั้น 1 ของอาคาร ต้องเผชิญกับน้ำท่วมขังห้องพัก พื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่จอดรถ ซึ่งส่งผลให้โครงการไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ และกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ซื้อและนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่า เนื่องจากต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการซ่อมแซมและฟื้นฟูพื้นที่”

ธปท.ประสานแบงก์ช่วยเหลือลูกหนี้

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ได้ออกประกาศให้สถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่มิใช่สถาบันการเงิน เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้ ดังนี้

1.สินเชื่อบัตรเครดิต สามารถพิจารณาปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ ให้ต่ำกว่าอัตราที่ ธปท. กำหนดได้ เป็นระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่พื้นที่นั้น ๆ ถูกประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย

2.สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล สามารถพิจารณาเงื่อนไขวงเงินชั่วคราวกรณีฉุกเฉินให้เกินกว่าอัตราที่ ธปท. กำหนดได้ เพื่อให้ลูกหนี้มีแหล่งเงินทุนฉุกเฉินเพียงพอสำหรับการฟื้นฟูความเสียหายอันเนื่องมาจากปัญหาสาธารณภัย โดยให้อนุมัติวงเงินดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่พื้นที่นั้น ๆ ถูกประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย

3.สินเชื่อทุกประเภท สามารถพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและสภาพคล่องแก่ลูกหนี้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อได้ รวมถึงการปรับเงื่อนไข เช่น ลดหรือยกเว้นดอกเบี้ยค่าธรรมเนียม ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้

ทั้งนี้ ให้อนุมัติวงเงินดังกล่าวโดยเร็วไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย โดยระหว่างให้ความช่วยเหลือ ธปท.จะผ่อนปรนหลักเกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้ให้คงการจัดชั้นเดิมเช่นเดียวกับก่อนประสบสาธารณภัยได้

กลาโหมมาเลเซียพร้อมช่วยไทย

สำนักงานภัยพิบัติแแห่งชาติมาเลเซีย รายงานเมื่อวันที่ 24 พ.ย.2568 ว่า มีประชาชนมากกว่า 11,000 คน ใน 7 รัฐของมาเลเซียได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนัก โดยมีประชาชนถึง 11,009 คน จาก 3,839 ครอบครัว ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใน 7 รัฐ อาทิ เกดะห์, กลันตัน, ปีนัง, เประ, ปะลิส, เตรังกานู และสลังงอร์ ณ เวลา 6.00 น.ของวันจันทร์

ทางการได้เปิดศูนย์หลบภัยชั่วคราว 60 แห่งในรัฐที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ที่พักอาศัยแก่ประชาชนที่ต้องพลัดถิ่นเพราะน้ำท่วม

ดร.ดาโต๊ะ ซรี อาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียกำลังทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาลไทย และกงสุลมาเลเซียในสงขลาเพื่อให้การสนับสนุนด้านต่างๆ

ตามรายงานของเดอะสตาร์ ระบุว่า กระทรวงกลาโหมได้แสดงความพร้อมในการช่วยเหลือไทยหากมีความจำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการกู้ภัยชุดใหญ่กว่านี้

ทั้งนี้ กงสุลมาเลเซียในสงขลาได้เรียกร้องให้คนในพื้นติดตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ และสามารถติดต่อสายด่วนกงสุลเพื่อขอความช่วยเหลือได้