ส่องข้อเสนอดิวตี้ฟรี 'คิงเพาเวอร์' แข่งเดือด ! ก่อนร้องเลิกสัญญา AOT

ส่องข้อเสนอดิวตี้ฟรี 'คิงเพาเวอร์' แข่งเดือด ! ก่อนร้องเลิกสัญญา AOT

จับตาพรุ่งนี้ ! ทอท.นัดประชุมบอร์ด ถกปม "คิงเพาเวอร์" ขู่เลิกสัญญาบริหารดิวตี้ฟรี 3 สนามบินภูมิภาค หลังเคยยื่นข้อเสนอการันตีผลตอบแทนขั้นต่ำปีแรก 2,331 ล้านบาท

KEY

POINTS

  • จับตาพรุ่งนี้ ! ทอท.นัดประชุมบอร์ด ถกปม “คิงเพาเวอร์” ขู่เลิกสัญญาบริหารดิวตี้ฟรี 3 สนามบินภูมิภาค หลังเคยยื่นข้อเสนอการันตีผลตอบแทนขั้นต่ำปีแรก 2,331 ล้านบาท
  • ขณะที่ปัจจุบันระบุเงื่อนไขไม่เอื้อ เหตุสุดวิสัยทั้งหมดยังคงส่งผลต่อยอดจำหน่ายและการประกอบการ จี้เจรจาหาทางออกร่วม 2 ฝ่าย ภายใน 45 วัน 

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดประมูลการให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ในช่วงปี 2562 โดยขณะนั้นได้เปิดประมูลรวม 3 สัญญา ประกอบด้วย

1. การให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

2. การให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่

3. การให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

โดยการเปิดประมูลมีเอกชนตอบรับยื่นข้อเสนอจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้ประกอบการทั้งไทย และต่างประเทศ แต่ผลปรากฏว่าสิทธิในการบริหารดิวตี้ฟรีทั้ง 3 สัญญา ผู้ชนะการประมูล คือ “กลุ่มคิงเพาเวอร์” ซึ่งเสนอวงเงินผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี (Minimum Guarantee) 3 สัญญารวมกัน ปีแรกมีมูลค่ารวมสูงถึง 23,548 ล้านบาท ซึ่งหากแบ่งเป็นรายสัญญา มีรายละเอียดดังนี้

- กิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย. 2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2574 เสนอผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ ปีแรก 15,419 ล้านบาท

- กิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ อายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย. 2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2574 เสนอผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ ปีแรก 2,331 ล้านบาท

- กิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กำหนดอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย. 2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2574 เสนอผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ ปีแรก 5,798 ล้านบาท

ส่องข้อเสนอดิวตี้ฟรี 'คิงเพาเวอร์' แข่งเดือด ! ก่อนร้องเลิกสัญญา AOT

ขณะที่ล่าสุดกลุ่มคิงเพาเวอร์ได้ยื่นหนังสือถึง ทอท. เพื่อขอหารือแนวทางยกเลิกสัญญาร้านสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) 3 ท่าอากาศยานในภูมิภาค ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ โดยระบุสาเหตุผลกระทบโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย อีกทั้งยังมีเหตุสงครามในหลายภูมิภาค สงครามการค้า และการกีดกันทางการค้า กำแพงภาษี การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งผู้โดยสารจีนที่มีกำลังซื้อสูงลดลง ทำให้ยอดขายลดลง

แม้ว่าในช่วงโควิด-19 ทอท.จะเยียวยาผลกระทบ โดยได้ปรับเปลี่ยนวิธีการคำนวณค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ มาเป็นผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อผู้โดยสาร (Sharing Per Head) จำนวน 127.30 บาท เรียกเก็บจากผู้โดยสารขาออก ผู้โดยสารผ่าน และผู้โดยสารขาเข้า แต่เนื่องด้วยปริมาณผู้โดยสารยังคงได้รับผลกระทบ เหตุสุดวิสัยทั้งหมดยังคงส่งผลต่อยอดจำหน่ายและการประกอบการ ทำให้ค่าตอบแทนที่บริษัทต้องจ่ายให้ ทอท. อยู่ในเกณฑ์สูงกว่าที่ควรจะเป็นและที่ได้เสนอไว้

ทั้งนี้ คิงเพาเวอร์ต้องประสบกับภาวะขาดทุน แบกรับภาระอัตราค่าตอบแทนที่สูงผิดปกติ และไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงของสถานการณ์ ในทางกลับกับ ทอท. กลับพิจารณาและดำเนินการตามที่เห็นสมควรเพียงและเป็นประโยชน์แก่ ทอท. เพียงฝ่ายเดียว ไม่ได้หารือบริษัทเพื่อหาแนวทางเก้ไขที่เหมาะสมต่อทั้งสองฝ่าย และด้วยเหตุต่างๆ ที่ยังไม่คลี่คลาย คิงเพาเวอร์จึงมีความจำเป็นต้องขอหารือร่วมทั้งสองฝ่ายเพื่อหาข้อยุติของปัญหา รวมไปถึงแนวทางพิจารณาเลิกสัญญา เพื่อให้ได้ข้อยุติภายใน 45 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการยื่นหนังสือของคิงเพาเวอร์ครั้งนี้ ทอท.ได้เตรียมตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียด โดยจำเป็นต้องเปรียบเทียบข้อดี และข้อเสียของการยกเลิกสัญญา รวมไปถึงการพิจารณาพื้นที่ให้บริหารดิวตี้ฟรีที่จะต้องยกเลิกจะได้รับผลกระทบอย่างไร โดยเรื่องนี้ ทอท.เตรียมนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. พิจารณาในวันที่ 16 มิ.ย.นี้