ครม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.งบ 69 ตั้ง กมธ.72 คน ลุยปรับงบรับวิกฤติ

ครม.ผ่านร่างสุดท้าย พ.ร.บ.งบ 69 ก่อนชงสภาวาระ 1 วันที่ 28 – 30 พ.ค.68 นี้ ตั้ง กมธ. 72 คน รมว.คลังเป็นประธาน ลุยปรับงบ 69 รับวิกฤติทรัมป์ ผอ.สำนักงบขอทุกฝ่ายช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ซึ่งที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว พร้อมเอกสารประกอบงบประมาณ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณ เสนอ โดยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 3,780,600 ล้านบาท เพื่อเตรียมที่จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญวันที่ 28 – 30 พ.ค.68 นี้ โดยมีการตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณา 72 คน โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน

โดยเป็นกรรมาธิการฯ ครม.เสนอชื่อ จำนวน 18 คน ซึ่งเป็นจำนวนไม่เกินหนึ่งในสี่ของจำนวนคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ในสัดส่วนพรรคการเมือง จำนวน 54 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้าน จำนวน 19 คน ซึ่งจะมีการคัดเลือกตามกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป

ทั้งนี้จำนวนกรรมาธิการ ในสัดส่วนที่คณะรัฐมนตรีเสนอชื่อจำนวนไม่เกิน 18 คน เห็นสมควรให้ ครม.พิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป

นายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันแล้วว่า จะสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดี เนื่องจาก หากร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ไม่ผ่านการพิจารณา ของรัฐสภาก็จะเป็นการซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มขึ้น เพราะรัฐบาลจะไม่มีงบประมาณในแก้ปัญหาให้กับประชาชน หรือพัฒนาประเทศ รวมทั้งไม่เกิดการจ้างงาน

ยกตัวอย่างวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ปัญหาของประเทศในขณะนั้นเนื่องจากเงินออกจากระบบอย่างรวดเร็ว แต่สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจที่สะสมต่อเนื่องหลายปี โดยเฉพาะการที่ภาคเอกชนชะลอการลงทุน ทำให้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน ดังนั้น การใช้จ่ายภาครัฐเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงต้องมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อให้เงินลงสู่ระบบ และเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ โดยย้ำว่าการเร่งรัดการใช้จ่าย และการลงทุนเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันได้

ส่วนที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ระบุว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้นั้น ตนเห็นว่าเป็นคำเตือนให้ทุกฝ่ายระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายให้เป็นไปอย่างมีวินัย จึงอยากให้ทุกภาคส่วนร่วมมือ และช่วยเหลือกัน เพื่อให้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีมติเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ซึ่งที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว พร้อมเอกสารประกอบงบประมาณ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณ เสนอ ทั้งนี้ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 3,780,600 ล้านบาท โดยจำแนกตามประเภทต่างๆ ได้ดังนี้