เปิดเหตุผลบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงินหมื่น GEN Z อายุ 16 - 20 ปีก่อน
คลังแจงเหตุผลบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เคาะแจกเงิน 10,000 บาทกลุ่ม GEN Z กลุ่มอายุ 16 - 20 ปีก่อน ชี้ 4 เหตุผล เช่น ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง เรียนรู้เทคโนโลยีเร็ว
คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันนี้ (10 มี.ค.68) มีมติให้ แจกเงิน 1 หมื่น เฟส 3 สำหรับกลุ่มคนอายุ 16 - 20 ปี ที่มีการลงทะเบียนกับภาครัฐไว้จำนวน 2.7 ล้านคน วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มโอนเงินให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือต้นไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
โดยโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท มีการอนุมัติโครงการไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง เฟสแรก บัตรคนจน – ผู้พิการ 14.5 ล้านคน และในเฟสที่ 2 แจกเงินให้กับผู้สูงอายุที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไปจำนวน 4 ล้านคน วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมการแจกเงินทั้ง 2 เฟสที่แจกไปแล้วรวม 18.5 ล้านคน รวมวงเงิน 1.85 แสนล้านบาท และเมื่อรวมกับเฟสที่ 3 ที่มีการอนุมัติแล้ว ในวันนี้เป็นวงเงินอีก 2.7 หมื่นล้าน รวมเป็นโครงการที่อนุมัติไปแล้วในการแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรวม 2.12 แสนล้านบาท
ขณะที่ยังมีวงเงินเหลือที่จะใช้เงินในโครงการนี้อีก 1.23 แสนล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังยืนยันว่าจะอนุมัติให้ได้ภายในปีงบประมาณนี้
สำหรับเหตุผลที่คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจอนุมัติแจกเงินให้กับกลุ่มคนอายุ 16 - 20 ปี ก่อนนั้น เนื่องมาจากการพิจารณาระยะเวลาที่เหมาะสมของการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่ามีเหตุผล 4 ข้อ ได้แก่
1.กลุ่มอายุนี้อยู่ในวัยเรียน เงินจำนวนที่รัฐบาลอนุมัตินี้สามารถแบ่งเบาภาระรายจ่ายของผู้ปกครองได้บางส่วน ซึ่งโครงการนี้มีการอนุญาตให้ใช้จ่ายค่าเทอมได้
2.กลุ่มอายุ 16 - 10 ปีนี้ถือว่ามีการใช้เทคโนโลยีสูง มีความตื่นตัว และยอมรับในการใช้เทคโนโลยี และระบบใหม่ๆ
3.เป็นกลุ่มที่จะมีการใช้จ่ายเงินสูงทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมาก รัฐบาลจึงอนุมัติเงินให้กับกลุ่มนี้ก่อน
4.เป็นโครงการนำร่องที่ใช้ระบบดิจิทัลวอลเล็ตจริงๆ ซึ่งต้องมีการใช้งานในกลุ่มเล็กก่อนที่กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ตในช่วงต่อไป
สำหรับเงื่อนไขของร้านค้านั้นจะไม่ได้ห้ามในรายการซื้อสินค้า เพราะไปกำกับดูแลโดยใช้การลงทะเบียนของร้านค้าที่ขึ้นทะเบียนแล้ว เป็น Negative List เช่น ลักษณะของร้านค้าที่ไม่ให้เข้าร่วม เช่น ร้านทอง ร้านขายเหล้าโดยเฉพาะ แต่ไม่ได้ห้ามตัวสินค้า หมายความว่าถ้าไปถึงร้านโชห่วย ที่มีสินค้าหลากหลายก็สามารถซื้อได้ทุกประเภท
นอกจากนั้นเปิดให้ร้านค้าทุกประเภทสามารถถอนเงินสดออกมาได้ไม่จำกัดเฉพาะร้านที่อยู่ในระบบเสียภาษีเพื่อให้เกิดความสะดวกของร้านค้า และเชิญให้ร้านค้าเข้าร่วมโครงการมากขึ้น และแก้ไขปัญหาเรื่องกระแสเงินสดให้กับร้านค้า แเต่ยังใช้เกณฑ์ร้านค้าที่อยู่ในอำเภอตามทะเบียนบ้าน และการขึ้นเงินสด ต้องเป็นการใช้ เงินรอบที่ 2
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์