'คลัง' ปรับเงื่อนไขใช้จ่าย ’ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3’ ปิดช่องโหว่เงินไหลออกระบบเศรษฐกิจ
“จุลพันธ์” เผยจ่อปรับลดเงื่อนไขการใช้จ่ายดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ปิดช่องโหว่เม็ดเงินไหลออกจากระบบเศรษฐกิจ หลังพบแจกเงินเฟสก่อนหน้ามี 5% นำไปใช้หนี้ และเก็บออม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวตอนหนึ่งในงาน “Thailand Economic Drives 2025” ในหัวข้อ“เศรษฐกิจไทย ความท้าทาย และโอกาส ในปี 2025” จัดโดยสำนักข่าวโพสต์ทูเดย์ วันที่ 7 ก.พ.2568 ว่า การประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (คณะอนุกรรมการ กลั่นกรองฯ) เมื่อเช้านี้ ได้มีการหารือถึงการปิดช่องโหว่ของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ไม่ให้เม็ดเงินหลุดรอดออกไปในส่วนที่ไม่ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบางครั้งที่ผ่านมา พบว่า มีประชาชนเพียงส่วนน้อยที่เลือกนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้และเก็บออม ประมาณ 5% ของ 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณทั้งหมดในการดำเนินโครงการ
ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีการเสนอให้ปรับลดเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินให้ง่ายขึ้น สำหรับประชาชนที่จะนำเงินเม็ดเงินนี้เปลี่ยนเป็นเงินสดเพื่อเดินหน้าธุรกิจและครัวเรือนง่ายขึ้น เพื่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น อย่างไรก็ตามรูปแบบการใช้จ่ายยืนยันว่าจะเป็นรูปแบบดิจิทัลวอลเล็ต
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการเตรียมพร้อมของระบบการใช้จ่ายของโครงการ ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย และมีความมั่นใจระบบบล็อกเชน ซึ่งธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งพร้อมเข้ามาเชื่อมต่อเป็น Open Loop รวมถึงกลุ่ม non-bank หลายรายที่สนใจเข้าร่วมด้วย
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะอนุกรรมการยังมีการพูดคุยถึงมิติการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคส่วนอื่นๆ เช่น เกษตร คมนาคม อสังหาริมทรัพย์ แบ่งออกเป็น โครงการที่รัฐบาลเริ่มทำไปแล้ว และมีการเดินหน้าต่อ 20 โครงการ และมีโครงการใหม่อีก 10 โครงการ นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ ส่งเรื่องเข้ามาในการประชุมครั้งถัดไปว่าจะมีกลไกอะไรอีกบ้างที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากกว่า 3.0-3.5%
"ได้ฝากการบ้านให้แต่ละหน่วยงานกลับมาเสนอในการประชุมครั้งถัดไป ก่อนที่จะไปนำเสนอในที่ประชุมบอร์ดชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ภายในช่วงสิ้นเดือนก.พ.นี้"
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์