'ท้องถิ่นจีน' เร่ง ปรับโครงสร้างหนี้ LGFVs หวังเลี่ยง ดีฟอลต์ เหตุรัฐบาลกลางคุมเข้ม

'ท้องถิ่นจีน' เร่ง ปรับโครงสร้างหนี้ LGFVs หวังเลี่ยง ดีฟอลต์ เหตุรัฐบาลกลางคุมเข้ม

นอกจากความปั่นป่วนในภาคอสังหาริมทรัพย์อีกหนึ่งประเด็นที่กดดันเศรษฐกิจจีนคือ “หนี้รัฐบาลท้องถิ่น” จากการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อออกหุ้นกู้ หรือ China Local Government Financing Vehicles (LGFVs) จำนวนมากเพื่อระดมทุนไปพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ 

KEY

POINTS

  • รัฐบาลจีนจับตารัฐบาลท้องถิ่นอย่างมาก ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงพยายามหลีกเลี่ยงการเป็นผิดนัดชำระหนี้จาก LGFVs
  • รัฐบาลท้องถิ่นจีนมีหนี้จาก LGFVs ประมาณ 66 ล้านล้านหยวน หรือ 9.2 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 340 ล้านล้านบาท)

นอกจากความปั่นป่วนในภาคอสังหาริมทรัพย์อีกหนึ่งประเด็นที่กดดันเศรษฐกิจจีนคือ “หนี้รัฐบาลท้องถิ่น” จากการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อออกหุ้นกู้ หรือ China Local Government Financing Vehicles (LGFVs) จำนวนมากเพื่อระดมทุนไปพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ 

นอกจากความปั่นป่วนในภาคอสังหาริมทรัพย์อีกหนึ่งประเด็นที่กดดันเศรษฐกิจจีนคือ “หนี้รัฐบาลท้องถิ่น” จากการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อออกหุ้นกู้ หรือ China Local Government Financing Vehicles (LGFVs) จำนวนมากเพื่อระดมทุนไปพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ 

ล่าสุด (13 มี.ค.) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ปัจจุบันรัฐบาลจีนจับตารัฐบาลท้องถิ่นอย่างมาก ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงพยายามหลีกเลี่ยงการเป็นผิดนัดชำระหนี้จากเครื่องมือทางการเงินดังกล่าวและพยายามหาวิธีปรับโครงสร้างหนี้ให้จังหวัดตัวเอง

โดยปัจจุบันรัฐบาลท้องถิ่นจีนทั้งประเทศมีหนี้จากเครื่องมือทางการเงินดังกล่าวประมาณ 66 ล้านล้านหยวน หรือ 9.2 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 340 ล้านล้านบาท) ท่ามกลางความพยายามในการรีไฟแนนซ์ที่อยู่ในระดับสูงมากขึ้น

แต่ในทางตรงกันข้าม นักลงทุนจำนวนมากเริ่มเข้าไปซื้อพันธบัตร LGFVs มากขึ้นเพราะมั่นใจว่ารัฐบาลท้องถิ่นจะทำทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ท่ามกลางการจับตาของรัฐบาลกลางอย่างไม่ขาดสายตา แม้นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าความพยายามทั้งหมดเป็นเพียงการเลื่อนความหายนะที่จะเกิดขึ้นให้ไกลออกไปเท่านั้น 
 

ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยบลูมเบิร์ก พบว่า ด้วยความต้องการซื้อพันธบัตร LGFVs ที่แข็งแกร่งจึงดันดอกเบี้ยเฉลี่ยในเดือนนี้ (Average Coupon) ของพันธบัตรแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.75% ตัวเลขนี้คํานวณจากรายชื่อผู้ออกพันธบัตร LGFVs ในสกุลเงินหยวนผ่านดัชนี Chinabond Index ก่อนหน้า

โดยวิธีการที่รัฐบาลท้องถิ่นพยายามจัดการกับปัญหาคือ

การรีไฟแนนซ์

หลังจากรัฐบาลจีนให้คํามั่นเมื่อปีที่แล้วว่าจะจัดการกับหนี้ในท้องถิ่น ปัจจุบันจีนเปิดตัวโครงการที่อนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นระดมทุนได้ประมาณ 1 ล้านล้านหยวนผ่านการขายพันธบัตรเพื่อชําระหนี้นอกงบดุลที่เกิดขึ้นโดย LGFVs และหน่วยงานของรัฐอื่นๆ โดยชําระคืนผ่านพันธบัตรที่ออกใหม่ของรัฐบาลท้องถิ่นซึ่งมีต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า

ตามบันทึกของ Guangfa Securities พบว่า กุ้ยโจวเป็นมณฑลแรกของจีนที่ขายพันธบัตรรีไฟแนนซ์พิเศษในปีนี้ 


 

ใช้แหล่งเงินภายใน 

ภูมิภาคที่มีภาระหนี้พยายามเพิ่มแหล่งเงินภายในให้สูงสุด รวมถึงการใช้พันธบัตรจาก LGFVs ที่อยู่ในเกณฑ์ดีกู้ยืมเพื่อชําระหนี้ของฉบับที่คุณภาพแย่กว่าจากภูมิภาคเดียวกัน

โดยพันธบัตร LGFVs ของมณฑลกุ้ยโจวออกพันธบัตรมูลค่า 1.8 พันล้านหยวนในเดือนก.พ. โดยรัฐบาลจะนำรายได้ไปชําระคืนหรือคืนเงินพันธบัตรที่ขายโดย LGFVs รายอื่นในภูมิภาค ด้านเจ้าหน้าที่จากมณฑลส่านซียังชี้แจงด้วยว่าจะทำแผนแบบครบวงจรในการจัดการแหล่งเงินทุนต่างๆ ภายในมณฑล

การปรับโครงสร้างหนี้ภาคเอกชน

ขณะเดียวกันรัฐบาลท้องถิ่นยังต้องรับมือกับหนี้จาก LGFVs ที่ไม่ใช่หนี้สาธารณะ (Non-public Debt) บางรายมีการปรับโครงสร้างหรือชะลอสินเชื่อธนาคาร และหนี้ที่ไม่ใช่พันธบัตรประเภทอื่นๆ โดยหวังว่าจะสร้างสภาพคล่องให้เพียงพอ

เมื่อต้นปีนี้ เจ้าหน้าที่บรรลุข้อตกลงใช้พันธบัตร LGFVs ของมณฑลซานตงเพื่อชําระคืนหนี้บางส่วนและขยายกําหนดเวลาการชําระเงินสําหรับหนี้ที่ไม่ใช่พันธบัตรเกือบทั้งหมด 479 ล้านหยวน

ขายสินทรัพย์

รัฐบาลท้องถิ่นพยายามขายสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นแหล่งรายได้ใหม่โดยหวังอุดช่องว่างทางการเงินขนาดใหญ่ที่มาจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ โดยรายได้จากการขายที่ดินซึ่งเป็นรายได้หลักลดลงเกือบ 9 แสนล้านหยวนในปีที่แล้ว 

ขณะที่ แถลงการณ์เดือนม.ค.จากสํานักงานการเงินของเมืองเสิ่นหยาง เมืองหลวงของมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีหนี้มากที่สุดของจีน พบว่า สามารถสร้างรายได้ 4.15 พันล้านหยวนในปีที่แล้วจากการขายสินทรัพย์ เช่น ศูนย์กีฬาโอลิมปิก ศูนย์วัฒนธรรมและศิลปะ ขณะที่เขตจิ่วหลงโป๋ของเมืองฉงชิ่งขายสินทรัพย์มูลค่ากว่า 3 พันล้านหยวนเมื่อปีที่แล้ว