กพท.ถก 'สายการบิน' เคาะปรับเพดานราคาตั๋ว เม.ย.นี้

กพท.ถก 'สายการบิน' เคาะปรับเพดานราคาตั๋ว เม.ย.นี้

กพท.ถกสายการบินในประเทศ ทบทวนปรับเพดานราคาตั๋วเครื่องบินใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน คาดแล้วเสร็จภายใน เม.ย.นี้

รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (20 ก.พ.) กพท.ได้นัดหารือร่วมกับสายการบินที่ให้บริการเส้นทางภายในประเทศทุกรายรวม 7 สายการบิน เพื่อชี้แจงและสำรวจความเห็นเกี่ยวกับการทบทวนปรับเพดานค่าโดยสารให้สอดคล้องกับต้นทุนและสถานการณ์ปัจจุบัน หลังจากที่เพดานค่าโดยสารที่กำหนดใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น ยอมรับว่าเป็นเพดานราคาที่ใช้มาเป็นเวลานาน

“ปัจจุบันก็พบว่ามีข้อร้องเรียนจากทางผู้โดยสารเกี่ยวกับราคาตั๋วเครื่องบินภายในประเทศที่มีราคาแพง แต่ กพท.ขอชี้แจงว่าในช่วงที่ผ่านมามีการตรวจสอบราคาตั๋วโดยสารมาอย่างต่อเนื่อง และพบว่าราคาในทุกเส้นทางบินยังไม่เกินกรอบกำหนดเพดานราคา เฉลี่ยตั๋วโดยสารที่มีราคา 6,000 บาท มีจำนวนอยู่เพียง 5% เท่านั้น”

ขณะเดียวกัน กพท.รับทราบถึงข้อร้องเรียนของผู้โดยสาร และอยู่ในขั้นตอนดำเนินการทบทวนปรับเพดานค่าโดยสาร จึงมีการเชิญผู้ประกอบการสายการบินเข้ามาหารือถึงทิศทางที่จะดำเนินการหลังจากนี้ รวมทั้งสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมการบิน ต้นทุนต่างๆ เพื่อนำมากำหนดเพดานราคาค่าโดยสารที่เหมาะสมด้วย

อย่างไรก็ดี กพท.เชื่อว่าหลังจากการหารือกับสายการบินในครั้งนี้ จะรวบรวมความเห็นประกอบการศึกษาความเหมาะสมของเพดานราคาใหม่แล้วเสร็จภายใน 1 – 2 เดือน หรือภายใน เม.ย.นี้ เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานพิจารณาอนุมัติก่อนนำไปดำเนินการมีผลบังคับใช้ต่อไป โดยการปรับเพดานราคาใหม่นี้ เชื่อว่าจะสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า การทบทวนปรับเพดานราคาค่าโดยสารถือเป็นการดำเนินงานในระยะกลางที่ต้องใช้เวลา แต่ขณะนี้กระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้ กพท.เร่งแก้ปัญหาตั๋วเครื่องบินภายในประเทศที่มีราคาสูงถือเป็นเรื่องเร่งด่วน จึงมีการนัดหารือกับผู้ประกอบการสายการบินในการกำหนดมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหานี้ร่วมกัน

กพท.ถก \'สายการบิน\' เคาะปรับเพดานราคาตั๋ว เม.ย.นี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้โดยสารบางรายร้องเรียนว่า ราคาบัตรโดยสารเครื่องบินในปัจจุบันมีราคาแพง โดยเฉพาะในเส้นทางกรุงเทพฯ–ภูเก็ต กระทรวงคมนาคมได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนดังกล่าว พร้อมสั่งการให้ กพท.ไปดำเนินการตรวจสอบและหาแนวทางการแก้ไขทันที เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ และตอบสนองความต้องการของประชาชนในวงกว้างตามนโยบายของรัฐบาล

โดยจากการรายงานและการตรวจสอบของ กพท. ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน กพท. ได้มีการกำหนดราคาเพดานเพื่อควบคุมราคาขั้นสูง ทั้งในเส้นทางหลัก และเส้นทางรอง โดยจำแนกเป็นอัตราสำหรับบริการต้นทุนต่ำและบริการเต็มรูปแบบ ซึ่ง กพท. ได้ตรวจสอบการกำหนดราคาบัตรโดยสารภายในประเทศของทุกสายการบินผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายทุกวัน โดยตรวจสอบยืนยันกับสายการบินโดยตรงทุกกรณี และยังไม่พบว่า สายการบินกำหนดราคาบัตรโดยสารสูงกว่าราคาเพดานที่กำหนดแต่อย่างใด

สำหรับราคาเพดานที่กำหนดไว้นั้น เป็นส่วนของราคาบัตรโดยสารสำหรับการเดินทาง (Air Fare) เท่านั้น ไม่ได้รวมค่าภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง และไม่รวมในส่วนที่ผู้โดยสารจะเลือกการบริการเพิ่มเติม ซึ่งในส่วนนี้ เป็นการให้บริการตามความสมัครใจของผู้โดยสารแต่ละท่าน เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำหนักสัมภาระ ค่าประกัน ค่าเลือกที่นั่ง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการควบคุมดูแลด้านราคาของ กพท. ยังคงอยู่ในกรอบมาตรฐานราคาเพดานที่กำหนดไว้

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ กพท. อยู่ระหว่างทบทวนการปรับเพดานค่าโดยสาร ซึ่งจะทำให้ราคาตั๋วโดยสารสูงสุดไม่แพงจนเกินไป แม้ว่าจากข้อมูลที่ กพท. รวบรวมจะพบว่า ตั๋วเครื่องบินที่มีราคาแพงเป็นเพียงส่วนน้อย เช่น ในเที่ยวบินช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา เส้นทางดอนเมือง-ภูเก็ต มีสัดส่วนตั๋วเครื่องบินที่มีราคาสูงกว่า 4,000 บาท เพียง 13.8% เป็นต้น โดยการเปลี่ยนแปลงของราคาค่าโดยสารนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการภาคท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทย และช่วยลดค่าใช้จ่ายการเดินทางให้กับประชาชน