‘เศรษฐา’ รมว.คลัง อย่าลืมประเด็นสินค้าจีนทะลัก

‘เศรษฐา’ รมว.คลัง อย่าลืมประเด็นสินค้าจีนทะลัก

ปัจจุบัน “สินค้าจีน” เข้ามาสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก กลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ไทยขาดดุลการค้ากับจีนมานาน และในทุกวันนี้ก็สร้างความกังวลต่อผู้ผลิตในไทยเป็นอย่างมาก จึงเป็นปัญหาที่ รมว.คลัง ต้องรีบแก้ไข

กระแสสินค้าจีนเข้ามาทะลักตลาดในประเทศไทยสร้างความกังวลให้กับผู้ผลิตสินค้าในประเทศไทยอย่างมาก โดยหากพิจารณาเฉพาะสินค้านำเข้าที่ผ่านด่านศุลกากรอย่างถูกต้อง พบว่าประเทศไทยขาดดุลการค้ากับประเทศจีนมาอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 20 ปี ในขณะที่มูลค่าการขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2566 ประเทศไทยและประเทศจีนมีการค้าร่วมกัน 104,964 ล้านดอลลาร์ โดยประเทศไทยขาดดุลการค้า 36,635 ล้านดอลลาร์ มากที่สุดเป็นประวัติการณ์

ในขณะที่สินค้าที่เข้ามาใช้ประโยชน์จาก Free Trade Zone หรือเขตปลอดอากร เป็นอีกประเด็นที่ผู้ผลิตสินค้าในประเทศไทยแสดงความกังวล โดยเฉพาะข้อยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับสินค้าที่ผ่านเข้าสู่ประเทศไทยผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซที่มีราคาไม่เกิน 1,500 บาท ซึ่งมีความได้เปรียบต่อผู้ผลิตในประเทศ รวมทั้งยังมีข้อกังวลถึงการลักลอบนำเข้าสินค้าหรือการสำแดงเท็จที่อาจเป็นอีกหนึ่งในสาเหตุของการที่มีสินค้าจีนเข้ามาทำตลาดในประเทศจำนวนมาก

การที่ภาคเอกชนมีข้อเสนอให้กรมศุลกากรเพิ่มความเข้มงวดการตรวจจับสินค้าที่นำเข้าผ่านด่านศุลกากร โดยการสำแดงข้อมูลเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี รวมถึงปัญหาจากการเข้ามาใช้สิทธิประโยชน์จาก Free Trade Zone เพื่อขายสินค้าในประเทศ ซึ่งปัญหาดังกล่าวทำให้มีสินค้าราคาถูกรวมถึงสินค้าที่ไม่มีมาตรฐานทะลักเข้าตลาดภายในประเทศ และปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงยอดขายสินค้าของผู้ผลิตในประเทศ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่ไม่สามารถแข่งขันด้านต้นทุนได้

นอกจากการแก้ปัญหาด้วยมาตรฐานสินค้า เช่น มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) อีกประเด็นที่หน่วยงานภาครัฐควรรับฟังข้อเสนอของภาคเอกชน คือ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าที่ผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ และปัญหาสินค้าที่อาจมีการลักลอบออกมาจากเขตปลอดอากร ซึ่งทั้งกรมศุลกากรและกรมสรรพากรจำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสินค้าจีนเข้ามาตีตลาด จนกระทบต่อผู้ประกอบการไทยและกระทบต่อการผลิตที่ลดลง

ปัจจุบันประเทศไทยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งแม้นายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังช่วยงาน แต่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ปฏิเสธไม่ได้ถึงความรับผิดชอบงานภายในกระทรวง โดยที่ผ่านมามีนายกรัฐมนตรีเพียง 5 คน ที่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายกรัฐมนตรีบางคนเลือกที่จะหาผู้อื่นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแทน เพราะรับผิดชอบงาน 2 ตำแหน่ง ได้ไม่หมด