รัฐบาลเลื่อนแจกเงินดิจิทัลชี้ต้องเปิดรับฟังความเห็นทุกฝ่าย

รัฐบาลเลื่อนแจกเงินดิจิทัลชี้ต้องเปิดรับฟังความเห็นทุกฝ่าย

รมช.จุลพันธ์ยืนยันรัฐบาลเดินหน้านโยบายแจกเงินดิจิทัล แต่อาจเริ่มไม่ทันตามกำหนดในเดือนพ.ค.นี้ เพราะต้องสร้างความเข้าใจร่วมกันกับทุกฝ่ายถึงความจำเป็นของนโยบายนี้ก่อนเริ่มโครงการ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวยืนยันว่า รัฐบาลจะเดินหน้านโยบายแจกเงินดิจิทัล แต่อาจเริ่มไม่ทันตามกำหนดในเดือนพ.ค.นี้ เพราะต้องสร้างความเข้าใจร่วมกันกับทุกฝ่ายถึงความจำเป็นของนโยบายนี้ก่อนเริ่มโครงการ

เขากล่าวว่า นโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิตัลวอลเล็ต เป็นนโยบายที่ได้รับการรับรองจากประชาชน ผ่านการเลือกตั้ง และได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว แต่มีบางองค์กรมีข้อคิดเห็นแตกต่าง เพราะอาจยังไม่เข้าใจในสิ่งที่รัฐบาลพยายามจะทํา อาจยังมองไม่เห็นวิกฤตทางเศรษฐกิจในขณะนี้ที่ไม่ใช่เพียงแค่วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ แต่เป็นวิกฤตการณ์ความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ หนังสือของคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นคําตอบเชิงกฎหมาย ไม่ได้ห้ามการดำเนินการนโยบาย และไม่ได้สั่งการให้เดินหน้า ซึ่งทางคณะกรรมการนโยบายฯ มีหน้าที่รับฟังแล้วนําไปปฏิบัติตาม เพื่อให้เข้าสู่กรอบของกฎหมายได้ในที่สุด รัฐบาลยังคงต้องรับฟังข้อคิดเห็นของหน่วยงานอื่นๆ รวมถึงประชาชนคณะกรรมการนโยบายฯ เปิดรับความคิดเห็นอย่างหลากหลาย และที่ผ่านมาเราไม่เคยพูดว่าทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันร้อยเปอร์เซ็นต์ 

ขั้นตอนต่อจากนี้เราต้องรอทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งหนังสือมายังเราอย่างเป็นทางการ แล้วจะประชุมเพื่อที่จะนําเอาความเห็นของทาง ป.ป.ช. และหนังสือของคณะกรรมการกฤษฎีกามาพิจารณาในคราวเดียวกัน แล้วจึงเริ่มกระบวนการที่จะทําความเข้าใจระหว่างหน่วยงานใดๆ ก็ตามที่ยังไม่เห็นถึงเจตนาดีของรัฐบาล ยังมองไม่เห็นถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เราจะต้องสื่อสารจนทุกฝ่ายมีความเข้าใจตรงกันแล้วก็เดินหน้านโยบายนี้ให้ได้ในที่สุด

เขากล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้มองเศรษฐศาสตร์เป็นเพียงแบบเรียน แต่มองเศรษฐศาสตร์ในมิติของความเป็นจริง ในมิติของชีวิตของพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน ภาวะของเศรษฐกิจมีความไหลลื่น ฉะนั้น เราจึงต้องชี้ทุกหน่วยงานให้เห็นข้อมูลปัจจุบัน สถานการณ์เศรษฐกิจตามจริง ความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดขึ้นจริง นําเสนอต่อสังคมและนําเสนอต่อหน่วยงานเหล่านั้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน

“รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เป็นอนุบาลทางการเมือง เรามีหน้าที่ในการดำเนินการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบของกฎหมายและได้รับความยอมรับจากทุกภาคส่วน เพื่อการแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชน นี่เป็นสิ่งที่เรายึดเป็นธงหลักและเราจะต้องทําให้สําเร็จ”

 

รมช.จุลพันธ์กล่าวว่า ทีมรัฐบาลได้เดินทางไปทั่วประเทศเพื่อพบพี่น้องประชาชน และได้เห็นปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ขณะนี้เศรษฐกิจไม่ได้ดี วันนี้เราต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ทั่วประเทศ รัฐบาลต้องหากลไกที่จะสร้างความเข้าใจร่วมกัน เมื่อทุกฝ่ายเห็นตรงกันจึงจะสามารถเดินหน้าได้ นั่นคือเป้าหมายที่เราคาดหวัง

“หากดูตามกรอบเวลา เราไม่น่าจะดำเนินการได้ทันภายในเดือนพฤษภาคม แต่รัฐบาลยังยืนยันเดินหน้านโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิตัลวอลเล็ตต่อไป ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้กรอบข้อจํากัดของเครื่องมือที่มี เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในขณะนี้ให้ได้มากที่สุด ถึงแม้ว่าเครื่องมือการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านดิจิตัลวอลเล็ตอาจจะต้องเลื่อนเวลาออกไป”

สำหรับเรื่องการลดวงเงินได้เกิดมาก่อนหน้านี้แล้วหนึ่งรอบ จากความเห็นของหน่วยงานหลายๆ หน่วยงาน ที่บอกว่าคนกลุ่มบนที่สุดจะไม่ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างที่ต้องการ เราก็รับฟัง จึงเป็นที่มาของการตัดงบประมาณลดลงมาเหลือราว 50 ล้านคนในปัจจุบัน แต่ตนไม่ได้ยินว่าจะลดเหลือ 30 ล้านคนจากที่ประชุม ข้อมูลนี้เป็นการรับฟังจากสื่อ ประเด็นนี้ผมจึงไม่สามารถตอบได้

“สิ่งที่รัฐบาลทำไม่ใช่การดันทุรัง เรามองเห็นถึงปัญหาของเศรษฐกิจของประเทศ การเจริญเติบโตที่ต่ำกว่าศักยภาพ หากไม่ได้ลงพื้นที่สัมผัสกับพี่น้องประชาชนก็อาจไม่เข้าใจและมองไม่เห็นจุดนี้ รัฐบาลจึงพยายามชี้ให้เห็นว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องจําเป็น เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาแข็งแกร่งในระดับที่เป็นไปตามศักยภาพของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง”

เขากล่าวด้วยว่า รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาเร่งด่วนหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องของการลดค่าครองชีพ เรื่องการลดราคาพลังงาน เรื่องการพักหนี้ เรื่องการแก้ไขหนี้สินทั้งระบบ เรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด เราเดินหน้าหมดแล้ว ถ้าเรามีร้อยเรื่องที่ต้องทำ แล้วถ้านโยบายดิจิตัลวอลเล็ตจําเป็นจะต้องเป็นหนึ่งเรื่องที่ชะลอไปเพื่อให้สามารถเดินหน้าทําอีก 99 เรื่องได้ เรายินดีครับ กลไกของภาครัฐมีมากมาย เรามีศักยภาพเพียงพอที่จะมีหนทางในการช่วยเหลือประชาชน ฉะนั้นยังมีหนทางอีกมากมาย ภารกิจหน้าที่อื่นๆ ที่จะต้องแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างรวดเร็วก็ต้องเดินหน้าต่อไป