สร้างแต้มบุญใหม่ เสริมบารมีธุรกิจ รับทรัพย์รับปีมังกร

สร้างแต้มบุญใหม่ เสริมบารมีธุรกิจ รับทรัพย์รับปีมังกร

ท่ามกลางโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เปรียบเหมือนกับการสร้างกรรมใหม่เพื่อสะสมแต้มบุญและเสริมบารมีให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมรับทรัพย์รับปีมังกร

ใกล้เข้าสู่ช่วงเวลาเฉลิมฉลองของทุกท่านในเทศกาลปีใหม่แล้วนะครับ ซึ่งปีที่ผ่านมาผมเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการในธุรกิจส่งออก เนื่องจากโลกต้องเผชิญกับความผันผวนมากมาย ทำให้การส่งออกของไทยติดลบราว 2.6% ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 ขณะที่ในระยะข้างหน้ายังมีความท้าทายอีกมากรออยู่จากแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศตลาดหลัก และปัญหา Geopolitics ที่อาจเร่งตัวขึ้น โอกาสก่อนขึ้นปีใหม่นี้ผมจึงอยากชวนทุกท่านกลับมาลองทบทวนการดำเนินธุรกิจในปีที่ผ่านมาเพื่อหาแนวทางพัฒนาปรับปรุงและต่อยอดธุรกิจรับโอกาสใหม่ ๆ ขณะเดียวกัน ผมอยากแชร์มุมมองการพัฒนาธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการยุคใหม่ ท่ามกลางโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมจะขอเปรียบเหมือนกับการสร้างกรรมใหม่เพื่อสะสมแต้มบุญและเสริมบารมีให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมรับทรัพย์รับปีมังกรดังนี้ครับ 

สร้างนวัตกรรมใหม่ การประยุกต์ใช้นวัตกรรมที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบจากคู่แข่งทางธุรกิจ และจะสร้างความแตกต่างยิ่งขึ้นหากสามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ของตนขึ้นมา โดยในช่วงแรกผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นจากการนำนวัตกรรมในตลาดมาปรับใช้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีโลกเสมือนอย่าง Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า เช่น การทดลองสินค้า และการสร้างกิจกรรมออนไลน์ ไปจนถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) ที่จะช่วยลดการทำงานที่สิ้นเปลืองเวลา อาทิ การใช้ AI ในกระบวนการผลิตอัตโนมัติตั้งแต่การประกอบ การทดสอบ และการบรรจุ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและแรงงาน ทั้งนี้ Price Waterhouse Cooper (PwC) คาดว่า AI จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจจากการเพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพการทำงานและการผลิตราว 6.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2573 

สร้างอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งข้อนี้ขอยกให้เป็นเรื่องการปรับเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เข้ากับการประชุม COP28 (The 28th UN Climate Change Conference of the Parties) ที่เพิ่งจบไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยเกือบ 200 ประเทศทั่วโลกที่เข้าร่วมประชุมยังคงมุ่งมั่นในการหาหนทางที่จะรักษาระดับอุณหภูมิโลก ดังนั้น การสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์กระแส Decarbonize และความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยานยนต์ไฟฟ้า (EV) พลังงานสะอาดทางเลือกแห่งอนาคตอย่าง Green Hydrogen ไปจนถึง Future Food อย่าง Plant-based Food และผลิตภัณฑ์โปรตีนจากแมลง ล้วนแต่เป็นเทรนด์ของอุตสาหกรรมใหม่ทั่วโลก จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในการขยายสู่ธุรกิจใหม่ ๆ ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยก็จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง อาทิ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ต้องเร่งปรับตัวสู่การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจเกษตรก็ควรศึกษาแนวทางการเพิ่มผลผลิต โดยอาจนำเทคโนโลยีอย่าง Smart Farming มาปรับใช้ เป็นต้น 

สร้างคู่กรรมใหม่ ด้วยการแสวงหาคู่ค้าในตลาดใหม่ ๆ ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในขยายธุรกิจและลดความเสี่ยงท่ามกลางตลาดส่งออกหลักของไทยทั้งสหรัฐฯ EU และจีนที่มีแนวโน้มเติบโตช้าลงในปีหน้า โดยผมอยากแนะนำตลาดใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง มี GDP per Capita สูงกว่าไทยราว 4 เท่า และกำลังเร่งพัฒนาเศรษฐกิจและปฏิรูปประเทศตามแผน Vision 2030 ซึ่งจะช่วยเกื้อหนุนความต้องการนำเข้าสินค้าจากไทย ส่วนอีกหนึ่งประเทศคือ แอฟริกาใต้ ซึ่งได้แรงหนุนจากนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล ทำให้มีความต้องการนำเข้าเพื่อผลิตและส่งออก รวมทั้งยังเป็นประตูการค้าที่สำคัญของภูมิภาคแอฟริกา โดยซาอุดีอาระเบียและแอฟริกาใต้เป็นสองตลาดส่งออกของไทยที่ขยายตัวสูงกว่า 30% ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 สะท้อนว่าสินค้าไทยมีศักยภาพในตลาดดังกล่าว ขณะที่อีกหนึ่งตลาดใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้ามคือ อินเดีย ซึ่งแซงหน้าจีนขึ้นเป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจากจำนวนประชากรที่มากที่สุดในโลกราว 1,428 ล้านคน อีกทั้ง IMF คาดการณ์เศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งเฉลี่ยกว่า 6% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีส่วนเกื้อหนุนกำลังซื้อของผู้บริโภคให้เติบโตตาม

EXIM BANK พร้อมเป็นสะพานหนุนนำผู้ประกอบการร่วมสร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่ดีไปด้วยกัน ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนการยกระดับธุรกิจและปรับตัวสู่ความยั่งยืน ตลอดจนพร้อมให้บริการคำปรึกษาและประเมินความเสี่ยงผู้ซื้อเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการรุกตลาดใหม่ ๆ โดยผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า EXIM BANK ในฐานะธนาคารเพื่อการพัฒนา จะมีส่วนช่วยผลักดันและยกระดับภาคธุรกิจของไทยให้ก้าวข้ามทุกอุปสรรคและพร้อมรับโอกาสใหม่ ๆ ที่กำลังจะมาถึง 

สุดท้ายนี้ ผมขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ทุกประการด้วยอานิสงส์จากแต้มบุญที่ทุกท่านสร้างเสริมไว้ ดั่งพุทธพจน์ที่ว่า “บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้นผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี” สวัสดีปีมังกรครับ