ครม. เคาะร่าง พ.ร.บ.งบฯ67 วงเงิน 3.48 ล้านล้าน ส่งสภาฯพิจารณาวาระแรก 3 ม.ค.67

ครม. เคาะร่าง พ.ร.บ.งบฯ67 วงเงิน 3.48 ล้านล้าน  ส่งสภาฯพิจารณาวาระแรก 3 ม.ค.67

“ครม.” เคาะร่าง พ.ร.บ.งบฯ67 วงเงิน 3.48 ล้านล้าน หลังคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ส่งสภาฯพิจารณาวาระ 1 3-4 ม.ค.67

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท และเอกสารประกอบงบประมาณ ให้กับที่ประชุมครม. พิจารณาเห็นชอบ ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎร ในขั้นตอนต่อไป

“ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 ตอนนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตรวจสอบรายละเอียดเสร็จแล้ว และมาเสนอครม. ซึ่งขั้นตอนจากนี้จะเสนอสู่รัฐสภาต่อไป”

สำหรับร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีกรอบวงเงินรวม 3.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2566 ซึ่งมีวงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท จำนวน 295,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.3% โดยรายละเอียดของงบประมาณ 2567 ประกอบด้วย

รายจ่ายประจำ 2.535 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 72.85% ต่องบประมาณ รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 118,361 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.40% รายจ่ายลงทุน 715,381 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20.56% รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 118,320 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.40%

ขณะที่วงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล ในปีงบประมาณ 2567 ไว้ที่ 693,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.63% ต่อวงเงินงบประมาณรวม หรือลดลงจากปีงบประมาณ 2566 ซึ่งมีวงเงิน 695,000 ล้านบาท จำนวน 2,000 ล้านบาท หรือลดลง 0.3%

ส่วนประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิ ประเมินไว้อยู่ที่ 2.787 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อยู่ที่ 19.02 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตามในขั้นตอนต่อจากนี้ ตามปฏิทินงบประมาณ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 จะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 3 - 4 มกราคม 2567 เพื่อพิจารณา วาระที่ 1 จากนั้นในวันที่ 3 - 4 เมษายน 2567 พิจารณา วาระที่ 2 - 3 ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภา วันที่ 9 - 10 เมษายน 2567 คาดว่า ในวันที่ 17 เมษายน 2567 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

นางรัดเกล้า อินทวงค์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามที่สำนักงบประมาณ (สงป.) เสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฏรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ วาระที่ 1 ในวันที่ 3 – 4 มกราคม 2567 ต่อไป

นางรัดเกล้า กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กำหนดให้ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นจำนวนไม่เกิน 3,480,000 ล้านบาท โดยจำแนกตามประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้


1.จำแนกตามกลุ่มงบประมาณ ดังนี้

1) รายจ่ายงบกลาง จำนวน 606,765.0 ล้านบาท

2) รายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ 1,150,114.0 ล้านบาท

3) รายจ่ายบูรณาการ 214,601.7 ล้านบาท

4) รายจ่ายบุคลากร 786,957.6

5) รายจ่ายสำหรับทุนหมุนเวียน 257,790.5

6) รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ 346,380.1 และ 7) รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 118,361.1

2.จำแนกตามยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ และรายการค่าดำเนินการภาครัฐสรุปได้ ดังนี้

1) ด้านความมั่นคง 390,149.3 ล้านบาท

2) ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 393,517.9 ล้านบาท

3) ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 516,954.2 ล้านบาท

4) ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 834,240.6 ล้านบาท

5) ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 131,292.3 ล้านบาท

และ 6) ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ 604,804.5 ล้านบาท

โดยมีรายการค่าดำเนินการภาครัฐ จำนวน 564,041.20 ล้านบาท เพื่อสำรองไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการรองรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยมิได้คาดหมายสำหรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นการชำระหนี้ภาครัฐ และเพื่อชดใช้เงินคงคลัง

“ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายฯ ครม.รับทราบผลการรับฟังความคิดเห็น และให้ความเห็นชอบข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายฯ โดยให้ สงป.ดำเนินการพิมพ์ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายฯ และเอกสารประกอบงบประมาณเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้ง ได้ผลิตเอกสารงบประมาณฉบับประชาชน โดยใช้ infographic เพื่อทำให้ประชาชนเข้าใจในเนื้อหาได้ง่ายขึ้น ซึ่งแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ งบประมาณตามช่วงวัย ตามความสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และตามยุทธศาสตร์ชาติ  เรื่องงบประมาณประเทศเป็นเรื่องของประชาชนทุกคน ประชาชนจะต้องรู้ว่าได้อะไรบ้างจากงบประมาณปี 2567 ขอชวนเชิญให้สแกนคิวอาร์โค้ดได้จากเฟสบุ๊คของสำนักโฆษก​ https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman” นางรัดเกล้า ย้ำ