'คมนาคม' รับงบปี 2567 ดีเลย์ ทำโครงการลงทุนครึ่งปีแรกสะดุด

'คมนาคม' รับงบปี 2567 ดีเลย์ ทำโครงการลงทุนครึ่งปีแรกสะดุด

“คมนาคม” รับครึ่งปีแรก 2567 โครงการลงทุนสะดุด หลัง พรบ.งบประมาณล่าช้า สั่งทุกหน่วยงานร่างเอกสารประกวดราคาเตรียมพร้อม หวังลดระยะเวลาดำเนินการ ขณะที่ “แลนด์บริดจ์” ยังเป็นพระเอกขับเคลื่อนการลงทุน จ่อโรดโชว์ต่อเนื่องจีน - ตะวันออกกลาง ก่อนเปิดประมูลปี 2568

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการลงทุนในปี 2567 ขณะนี้ต้องยอมรับว่าช่วงครึ่งปีแรก ระหว่าง ม.ค. - พ.ค. 2567 จะยังไม่สามารถผลักดันการลงทุนที่ใช้งบประมาณประจำปี 2567 ได้ เนื่องจากปัจจุบันงบประมาณดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถเสนอตามขั้นตอนและได้รับการอนุมัติในเดือน พ.ค.ปีหน้า

ดังนั้นโครงการลงทุนที่ต้องจัดใช้งบประมาณประจำปี 2567 โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะยังไม่สามารถเดินหน้าได้ แต่อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ ได้วางแผนเร่งรัดการดำเนินงาน โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา (TOR) หากงบประมาณผ่านการอนุมัติจะต้องสามารถเริ่มกระบวนการประมูลและลงนามสัญญาได้โดยเร็ว

“ปีหน้ามีโครงการลงทุนสำคัญของกระทรวงฯ 72 โครงการที่จะต้องเร่งรัดการลงทุน โดยแม้ว่างบประมาณปี 2567 จะดีเลย์ออกไป แต่กระทรวงฯ ได้กำชับทุกหน่วยงานให้เตรียมพร้อมประมูล และจัดซื้อจัดจ้าง หากงบประมาณได้รับจัดสรรแล้ว จะต้องเดินหน้าทันที เพื่อเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจจากการลงทุนภาครัฐ เพราะปัจจุบันเชื่อว่าเอกชนก็พร้อมประมูลงาน”

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า แม้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 จะยังไม่สามารถผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานได้จากการจัดใช้งบประมาณที่ล่าช้า แต่กระทรวงฯ ยังคงมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อมจากการจัดใช้เงินลงทุนในรูปแบบอื่นๆ อาทิ การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (พีพีพี) และเงินจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ซึ่งขณะนี้มีโครงการที่พร้อมเปิดประกวดราคา ได้แก่ โครงการทางพิเศษฉลองรัช ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา ระยะทาง 16.2 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.4 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ในปี 2567 กระทรวงฯ จะยังเดินหน้าโปรโมทดึงเอกชนร่วมลงทุนในโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ เนื่องจากการจัดโรดโชว์ที่ผ่านมาทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยในปีหน้ากระทรวงฯ จะเดินทางไปโรดโชว์แก่นักลงทุนต่างชาติ อาทิ จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ และหลายประเทศในตะวันออกกลาง ก่อนเปิดประมูลในปี 2568