ทีม พญานคราช ตรวจตู้สินค้าค้างท่าเรือแหลมฉบัง ล้างบางสินค้าเกษตรเถื่อน

ทีม พญานคราช ตรวจตู้สินค้าค้างท่าเรือแหลมฉบัง ล้างบางสินค้าเกษตรเถื่อน

ธรรมนัส นำทีม “พญานาคราช”จี้เปิดตู้สินค้า ท่าเรือแหลมฉบัง ค้างอีก 25 ตู้จ่อสินค้าเกษตรเถื่อน ยืนยันขั้นตอนตรวจสอบ โปร่งใส เล็ง MOU ทุกหน่วยงาน เพื่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังนำทีมพญานาคราชลงพื้นที่ติดตามการตรวจสอบสินค้าเกษตรนำเข้า ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ กรมวิชาการเกษตร กรมประมง

ทีม พญานคราช ตรวจตู้สินค้าค้างท่าเรือแหลมฉบัง ล้างบางสินค้าเกษตรเถื่อน

ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายอำเภอแหลมฉบัง และกรมศุลกากร บูรณาการเข้าสุ่มตรวจตู้คอนเทนเนอร์สินค้าเกษตรที่คงค้าง ณ หน้าด่านเกินกว่า 45 วัน หลังจากที่กรมศุลกากรได้แจ้งผู้ประกอบการให้เข้ามายื่นเอกสารการเสียภาษีและสำแดงรายการสินค้าภายในตู้ จำนวน 25 ตู้ จากทั้งหมด 95 ตู้ ซึ่งก่อนหน้านี้ดำเนินการตรวจไปแล้ว 70 ตู้

ทีม พญานคราช ตรวจตู้สินค้าค้างท่าเรือแหลมฉบัง ล้างบางสินค้าเกษตรเถื่อน

 โดยได้รับรายงานจากกรมศุลกากรว่าเป็นตู้ตกค้างและสำแดงรายการไม่ตรงตามความเป็นจริง ซึ่งเบื้องต้นสามารถเข้าตรวจสอบได้ 5 ตู้ มีสินค้าเกษตรอยู่ภายในทั้งสิ้น และจากนี้กรมศุลกากรจะดำเนินการส่งหนังสือไปยังหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องตามประเภทสินค้าที่ตรวจพบเพื่อรับมอบตู้ดังกล่าวไปทำลาย สำหรับ 20 ตู้ที่ไม่สามารถเปิดตรวจได้ในวันนี้ เนื่องจากต้องขนย้ายลงมาจากที่สูง

ได้มอบหมายให้อธิบดีทั้ง 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเปิดตู้ตรวจสอบ และรายงานความคืบหน้ามายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรต่อไป สำหรับ 161 ตู้คอนเทนเนอร์ที่ตรวจพบว่าเป็นหมูเถื่อนก่อนหน้านี้ ได้ดำเนินการทำลายตามกระบวนการจนหมดสิ้นแล้ว พร้อมทั้งมีหลักฐานการทำลายทุกตู้ สามารถตรวจสอบได้ และเตรียมแถลงผลการดำเนินงานในเร็ว ๆ นี้

นอกจากนี้ "มาตรการต่อจากนี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าเกษตรทั้งหมด จะร่วมกันบูรณาการการดำเนินงานร่วมกัน โดยจะมีการลงนาม MOU เพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ปิดช่องโหว่และขจัดขบวนการนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายให้สิ้นซาก ขณะเดียวกัน ได้ประสานความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดำเนินการขยายผลไปจนถึงต้นตอของขบวนการ

ทั้งหมดนี้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งหวังจะแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เกษตรกรมีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเอง"