ศึกแฉ ‘หมูเถื่อน’ ลากการเมือง คลิปลับ 'ตายเดี่ยว-ตายหมู่' ?

ศึกแฉ ‘หมูเถื่อน’ ลากการเมือง คลิปลับ 'ตายเดี่ยว-ตายหมู่' ?

"...สถานการณ์ลักลอบค้าหมูเถื่อนกำลังถูกเปิดโปงเงื่อนงำ หลังฉากขบวนการ ที่ตัวละครโยงใยกับนักการเมืองในรัฐบาล จึงต้องจับตาว่าการแฉของบรรดาผู้ถูกพาดพิง จะจบแบบตัดตอน“ตายเดี่ยว” หรือลากกันออกมา“ตายหมู่”..."

เป็นอีกปมฉาวใหญ่ กรณีลักลอบนำเข้า “หมูเถื่อน” ที่บานปลายขยายวงไปหลายวงการ

นำไปสู่คำสั่งเข้มจาก นายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” ให้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงยุติธรรม ดำเนินการแก้ไขปราบปรามปัญหานี้โดยเร่งด่วน

“ได้กำชับให้ตรวจสอบอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า เพราะกังวลว่าจะมีการโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปใช้ในการกระทำความผิดซ้ำ ทราบดีว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีภารกิจที่ต้องทำหลายอย่าง แต่ก็อยากเร่งรัดให้ดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด” คำยืนยันของนายกฯเศรษฐาถึงเรื่องนี้ พร้อมย้ำล่าสุด 5 ธ.ค.ว่า "ต้องขยายผลให้ถึงรายใหญ่ให้ได้" 

ประเด็นดังกล่าว ถูกเพ่งเล็งไปถึง “นักการเมืองใหญ่” ที่อยู่เบื้องหลังกระบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเข้ามาในประเทศ

พลันที่ เสียงพูดคุยใน “คลิปลับ” ถูกปล่อยออกสู่สาธารณะ โดยเป็นการพูดคุยกันระหว่าง “นาย ท.” กับ “นาย ธ.” ถึงกรณีการจ่าย “ค่าบริหารจัดการ” เป็นจำนวนถึง “10 กิโล”

โดยสาระสำคัญใน “คลิปลับ” ดังกล่าว เริ่มบทสนทนาโดย “นาย ท.” พูดแกมขอร้องให้อธิบดีกรมปศุสัตว์ปล่อยตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 38 ตู้ที่ถูกอายัดไว้ โดยกล่าวอ้างว่า ตู้ดังกล่าวเป็นของ “บริษัท ศ.” โดยเจ้าของบริษัทชื่อย่อ “บ.” อ้างว่า ดำเนินการอย่างถูกต้อง โดยจะส่งตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวที่สำแดงสินค้าเป็นเนื้อหมู ปลายทางสินค้าอยู่ที่ลาว มีผู้รับ และมีเอกสารการส่งออกถูกต้อง แต่กลับโดนกลั่นแกล้งอายัดไว้ จึงขอให้ช่วยเหลือ แล้วจะมีค่าบริหารจัดการให้ “10 กิโล”

ในแวดวงการเมืองย่อมทราบกันดีว่า ความหมายของการให้ “10 กิโล” ย่อมหมายถึงเม็ดเงิน โดยปัจจุบันตกอยู่ที่ 1 กิโล เท่ากับ 1 ล้านบาท

หลังจากคลิปลับดังกล่าวถูกเผยแพร่ไม่นาน นักข่าวต่างเฮโลไปที่ประชุม ครม.สัญจร ครั้งแรกของ “รัฐบาลเศรษฐา” พร้อมใจกันจ่อไมค์ขอสัมภาษณ์ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ในฐานะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หนึ่งในรัฐมนตรีที่ถูกสั่งการให้ปราบปราม “หมูเถื่อน” อย่างเร่งด่วน

โดย “ผู้กองธรรมนัส” ตอบด้วยท่าทีจริงจังว่า “เอาตามความเป็นจริงไหมล่ะ รู้แล้วว่าเสียงใคร ตัวย่อ ท.เป็นนักแฉ และนักช่วยเหลือสังคม ประมาณนั้นกำลังตรวจสอบอยู่”

สืบไปสืบมาหวยไปออกที่ “ไทกร พลสุวรรณ” สมาชิกคณะหลอมรวมประชาชน หนึ่งใน “นักร้อง” โต้โผหลักที่ยื่นเรื่องต่อ กมธ.การเกษตรฯ ของสภาผู้แทนราษฎร ให้ช่วยแก้ไขปัญหา “หมูเถื่อน” โดยเฉพาะกรณีการฝังกลบทำลายหมูเถื่อน 4,500 ตันที่ส่อมีพิรุธ พร้อมกับโฟกัสไปที่การทำงานของ “อธิบดีกรมปศุสัตว์” คนปัจจุบัน

ล่าสุด “ไทกร พลสุวรรณ” ออกมาชี้แจงถึงกรณีคลิปเสียงดังกล่าว ยืนยันว่า “นาย ท.” คือตัวเองจริง ส่วน “นาย ธ.” คือที่ปรึกษาทางกฎหมายของ รมว.เกษตรฯ โดยภายหลังเกิดเรื่องนี้ ได้ขอความเป็นธรรมไปยัง รมช.เกษตรและสหกรณ์ คือ “ไชยา พรหมมา” แล้ว

ท่าที “ไทกร” ยังส่งสาสน์ท้ารบไปยัง “ผู้กองธรรมนัส” โดยระบุว่า ขอให้ฟังข้อเท็จจริง ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบหาข้อมูล ให้โทรมาถามตนได้ว่า เรื่องเป็นอย่างไร ทำไมไม่ทำต่อ ทำไมยกเลิก ไม่เอา ทำไมไม่ดำเนินการต่อ ทำไมเลือกวิธีการขอความเป็นธรรมกับ รมช.เกษตรฯ นี่คือข้อเท็จจริงทั้งหมด จึงไม่อยากให้ทางสื่อ นำข้อมูลผิด ไม่ใช่ว่าคลิปเสียงพาดหัว 10 กิโล เคลียร์หมูเถื่อน เรื่องเคลียร์ปัญหาถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถูกกลั่นแกล้ง

สำหรับ “นาย ธ.” ที่ปรึกษาทางกฎหมายของ รมว.เกษตรฯ ก่อนหน้านี้เคยเดินทางไปพร้อมกับอธิบดีกรมปศุสัตว์ เพื่อแจ้งความเอาเรื่อง “เพจดัง” หมิ่นประมาท “ผู้กองธรรมนัส” มาแล้วก่อนหน้านี้

เมื่อปะติดปะต่อจิ๊กซอว์ของเรื่องนี้ เบื้องต้นพบว่า มีตัวละครทางการเมืองที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้อย่างน้อย 3 คนด้วยกัน คือ 

1.ไทกร พลสุวรรณ ที่เดินหน้ายื่นเรื่องร้องเรียนปราบปรามหมูเถื่อน แต่กลับถูกแฉประเด็น“คลิปลับ”ประสานงานเคลียร์เรื่องอายัดตู้คอนเทนเนอร์ 2.นาย ธ. ที่ปรึกษาทางกฎหมายของ รมว.เกษตรฯ (ร.อ.ธรรมนัส) และ 3.ไชยา พรหมมา รมช.เกษตรฯ จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยมีปัญหา “เกาเหลา” กับ “ธรรมนัส” ในการแบ่งงานภายในกระทรวง โดยเฉพาะ “กรมปศุสัตว์” มาก่อนหน้านี้

ไม่นับกรณี ครม.สั่งเด้งฟ้าผ่า “พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล” พ้นเก้าอี้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปนั่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยถูกเชื่อมโยงว่า อาจเกี่ยวข้องการเข้าตรวจค้นเครือข่ายนายทุนลักลอบค้าหมูเถื่อนหรือไม่

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอได้รายงานการสอบสวนเรื่องลักลอบค้าหมูเถื่อนต่อนายกฯ “เศรษฐา” โดยเป็นเรื่องจากกรมศุลกากร จำนวน 161 ตู้ แบ่งผู้กระทำผิด 3 กลุ่มคือ 1.บริษัทนำเข้า แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมไปแล้ว 6 ราย 2.กลุ่มนายทุนที่สั่งนำหมูเข้าไทย ออกหมายจับ 2 บริษัทไปแล้ว โดยผู้ต้องหาหลบหนีไปต่างประเทศ และ 3.กลุ่มดูแลห้องเย็นที่กระจายนำหมูเถื่อนไปแช่แข็ง

จะเห็นได้ว่าตัวละครเริ่มถูกเปิดชื่อออกมาหน้าฉากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่นายฯ “เศรษฐา” ยืนยัน สั่งการให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มข้นในตอนนี้

สถานการณ์ลักลอบค้าหมูเถื่อนกำลังถูกเปิดโปงเงื่อนงำ หลังฉากขบวนการ ที่ตัวละครโยงใยกับนักการเมืองในรัฐบาล จึงต้องจับตาว่าการแฉของบรรดาผู้ถูกพาดพิง จะจบแบบตัดตอน“ตายเดี่ยว” หรือลากกันออกมา“ตายหมู่” และไม่พ้น กลายเป็นเหยื่อฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น ที่กระเทือนทั้งรัฐบาล