ทอท.ขึ้นค่าบริการสนามบิน หลังลงทุนระบบอัตโนมัติ 1.6 หมื่นล้าน

ทอท.ขึ้นค่าบริการสนามบิน หลังลงทุนระบบอัตโนมัติ 1.6 หมื่นล้าน

ผู้โดยสารโปรดทราบ ! กำหนดเดินทางหลัง 1 เม.ย.2567 เตรียมควักจ่ายค่าบริการสนามบินเพิ่ม 30 บาท หลัง ทอท.ปรับเพิ่มค่าบริการผู้โดยสารขาออก PSC เหตุลงทุนระบบอัตโนมัติ 1.6 หมื่นล้านบาท ทำต้นทุนอัตราค่าบริการเพิ่มขึ้น

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ ทอท. ประกาศเตรียมปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charges: PSC) สำหรับผู้โดยสารขาออก เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2567 เป็นต้นไป แบ่งเป็น

ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ

ปรับจาก 700 บาทต่อคน เป็น 730 บาทต่อคน

ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ

ปรับจาก 100 บาทต่อคน เป็น 130 บาทต่อคน

โดยที่มาของปรับขึ้นค่า PSC นั้น สืบเนื่องจาก ทอท.ได้ลงทุนนำเทคโนโลยีระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) ที่มีต้นทุนจ้างเอกชนมาดำเนินการทั้ง 6 สนามบิน รวมวงเงินราว 1.6 หมื่นล้านบาท เป้าหมายเพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ในสนามบินที่ให้บริการแก่สาธารณะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการดำเนินการสนามบินสาธารณะให้มีความทันสมัย มีศักยภาพเทียบเท่าระดับสากล

สำหรับบริการที่ ทอท.ได้ลงทุนพัฒนาครั้งนี้ เรียกว่าบริการระบบ (Common Use Passenger Processing System : CUPPS) อันประกอบด้วย

1. บริการตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Terminal Equipment: CUTE) ที่เข้ามาช่วยยกระดับการให้บริการของเคาน์เตอร์เช็กอินเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับการบริการบนมาตรฐานเดียวกันกับท่าอากาศยานระดับสากล

2. บริการเช็กอินด้วยตัวเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารไม่ต้องรอแถวเช็กอิน อีกทั้งยังสามารถเช็กอินล่วงหน้าเป็นเวลา 6 – 12 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน)

3. บริการรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD) สำหรับให้ผู้โดยสารสามารถโหลดสัมภาระได้ด้วยตนเอง

กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ตามที่ ทอท.ได้นําระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง CUPPS มาให้บริการ ณ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ความปลอดภัยในการใช้บริการมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับมติที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน ครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2564 ที่ได้กำหนดนโยบายด้านการบินพลเรือนของประเทศในการนำเทคโนโลยีระบบบริการ CUPPS มาใช้ในสนามบินที่ให้บริการแก่สาธารณะ ทั้งนี้ ในกระบวนการพิจารณาการปรับปรุงค่า PSC ดังกล่าว ทอท. ได้เสนอ กพท. เพื่อขออนุมัติหลักเกณฑ์เกี่ยวกับแนวทางการเรียกเก็บค่าบริการระบบ CUPPS

ซึ่ง กพท.ได้มีการพิจารณาแล้วเห็นว่า การจะเรียกเก็บค่าบริการจากผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้ใช้บริการระบบ CUPPS อีกทั้งค่าบริการดังกล่าวเป็นค่าบริการที่เกี่ยวกับการบิน (Aeronautical charges) ดังนั้น ทอท. จึงควรนำค่าบริการ CUPPS มาคำนวณรวมเป็นต้นทุนส่วนหนึ่งของค่า PSC ตามมาตรา 56 (1) แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศฯ อีกทั้งอัตราค่า PSC ที่ปรับเพิ่มดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ดี ในส่วนของรายได้จากการจัดเก็บค่า PSC นั้น กฎหมายได้กำหนดให้ผู้บริหารท่าอากาศยานนำไปใช้ในการพัฒนาท่าอากาศยาน จัดหาและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และการบำรุงรักษาด้านความปลอดภัยท่าอากาศยานให้เป็นไปตามมาตรฐานของท่าอากาศยานในระดับสากล รวมทั้งการพัฒนาด้านเทคโนโลยีในท่าอากาศยานทุกแห่ง ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อผู้โดยสารให้ได้รับความปลอดภัย และความสะดวกสบายจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จัดไว้รองรับ

ท้ายนี้คงต้องจับตาดูว่าหลังการปรับขึ้นค่าบริการสนามบิน ทอท.จะนำเม็ดเงินเหล่านี้มาพัฒนาบริการสนามบินให้สร้างความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารเพิ่มมากน้อยเพียงใด ไม่ใช่เป็นเพียงการผลักภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้โดยสาร แต่กลับต้องเผชิญปัญหาความแออัดในสนามบิน ตลอดจนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เก่าเกินจะใช้บริการ ซ้ำรอยเหตุทางเลื่อนดอนเมือง