มรสุมเศรษฐกิจจีน ฉุดสถานการณ์ส่งออกไทย

มรสุมเศรษฐกิจจีน ฉุดสถานการณ์ส่งออกไทย

หลายปัจจัยเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจจีนโตแผ่ว ทั้งสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ฟองสบู่ภาคอสังหาฯ ชี้จีนเตรียมขาดแรงงานภาคอุตสาหกรรม เตือนกระทบส่งออกไทย กกร.หั่นเป้าส่งออกปีนี้ ติดลบ 2-0%

นายอัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปยังประเทศจีนคิดเป็น 12% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 2 รองจากสหรัฐ โดยมีมูลค่าการส่งออกราว 35,000 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นการที่เศรษฐกิจจีนมีอัตราการเติบโตไม่ถึง 5% ตามที่คาดการณ์ไว้จึงส่งผลให้สถานการณ์ส่งออกไทยไปตลาดจีนในปีนี้มีโอกาสที่จะไปไม่ถึงเป้าเดิม หรือไม่ขยายตัวไปมากกว่าปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หากมองที่โครงสร้างเศรษฐกิจจีน ก็พบว่ามีปัญหาอยู่หลายเรื่องที่กดทับการเติบโต ตั้งแต่สงครามการค้าและความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยภายในประเทศจากฟองสบู่ภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังต้องใช้มาตรการรัฐช่วยอุ้ม 

“ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีสัดส่วน 30% ของเศรษฐกิจจีนยังชะลอตัว ในขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศก็ยังไม่ฟื้นตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังไม่เป็นผลมากนัก” 

นอกจากนี้ อัตราการว่างงานในกลุ่มหนุ่มสาวของจีน (16-24 ปี) มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเดือน มิ.ย.2566 มีอัตราการว่างงานสูงถึง 21.3% รวมไปถึงในปี 2030 คาดการณ์ว่าจีนอาจเกิดการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมกว่า 30 ล้านคน เนื่องจากเทรนด์ตลาดแรงงานที่สนใจภาคไอทีและเทคโนโลยีมากกว่า

“ประเทศไทยควรจะต้องมีการกระจายความเสี่ยงและรุกตลาดส่งออกไปยังประเทศอื่นเพิ่มขึ้น เพื่อลดการพึ่งพิงตลาดจีนอย่างเดียว โดยปัจจุบันยังมีหลายตลาดที่ไทยยังมีสัดส่วนส่งออกไม่ถึง 5% เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา บราซิล รัสเซีย เอเชียตะวันออก และอินเดีย” 

นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า โดยปกติแล้วแนวโน้มการส่งออกช่วงครึ่งปีหลังจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปีเป็นผลตามฤดูกาล โดยในปี 2566 คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดการณ์ว่าจะหดตัว 2-0% เนื่องจากดีมานต์จากประเทศคู่ค้าสำคัญชะลอตัว รวมทั้งตลาดส่งออกหลักทั้งสหรัฐ อินเดีย ลาตินอเมริกา อาเซียน และจีน 

ทั้งนี้การที่เศรษฐกิจจีนไม่ฟื้นตัวอย่าที่คาดทำให้มีส่วนเกินการผลิตที่ส่งออกมายังตลาดอาเซียน ซึ่งส่งผลให้ไทยมีสัดส่วนในการส่งออกในอาเซียนติดลบ 7% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 โดยเฉพาะสินค้าสำเร็จรูป สินค้าเกษตร และอาหารสำเร็จรูป ขณะนี้มีเพียงรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ไทยยังส่งออกได้ดี