‘จีน’ ส่งสัญญาณ หลังลดทำข้อตกลงควบรวมกิจการ ‘สหรัฐ’ ต่ำสุดรอบ 17 ปี

‘จีน’ ส่งสัญญาณ หลังลดทำข้อตกลงควบรวมกิจการ ‘สหรัฐ’ ต่ำสุดรอบ 17 ปี

สถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์ระหว่างสหรัฐ-จีน ลดทอนสัมพันธ์ด้านการเงินข้ามพรมแดน ทำให้ทิศทางในปัจจุบัน จีนทำข้อตกลงควบรวมกิจการในสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ

ดีลโลจิก (Dealogic) ระบุว่า การลงทุนด้านการควบรวมกิจการในสหรัฐของจีนรวมทั้งสิ้นอยู่ที่เพียง 221 ล้านดอลลาร์ ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549

ตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่และตอกย้ำผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีต่อภาคการเงินข้ามพรมแดน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยคึกคักและเชื่อมโยงธุรกิจจีนเข้ากับตลาดตะวันตกตลอดหลายปีที่ผ่านมา

นอกจากสหรัฐแล้ว ดีลโลจิกระบุว่า จีนทำข้อตกลงควบรวมกิจการในเยอรมนีเพียง 189 ล้านดอลลาร์ ในปีนี้ ซึ่งต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี ขณะที่กิจกรรมในสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 503 ล้านดอลลาร์ และ 228 ล้านดอลลาร์ ในปีนี้ แต่ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขสำหรับแคนาดา

 

“ปีนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมมากนัก อย่างน้อยสำหรับช่วงครึ่งปีแรก” นางคริสตัล จาง หุ้นส่วนอาร์ก กรุ๊ป (Arc Group) ซึ่งเป็นบริษัทการเงินในเซี่ยงไฮ้ ระบุ

“ปริมาณลดลงอย่างมาก หลังมีการแทรกแซงด้านกฎระเบียบเพิ่มมากขึ้น” นายธนาคารรายหนึ่งจากธนาคารระหว่างประเทศชั้นนำในเอเชีย ระบุ พร้อมกล่าวเสริมว่า กิจกรรมในอนาคตจะเป็นธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ

นอกจากนี้ ยังบ่งชี้ถึงอุตสาหกรรมแร่และโลหะสำคัญ ซึ่งจีนเพิ่งออกมาตรการจำกัดการส่งออกไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา “บริษัทจีนจำนวนมากต้องการควบรวมกิจการแร่สำคัญ ๆ ในแคนาดา ออสเตรเลีย หรืออเมริกาเหนือ แต่การดำเนินการดังกล่าวดูยากลำบากขึ้นภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้”