พาณิชย์ ต่ออายุยกเว้นเก็บภาษีเหล็กทำกระป๋อง

พาณิชย์ ต่ออายุยกเว้นเก็บภาษีเหล็กทำกระป๋อง

พาณิชย์ ต่ออายุยกเว้นเก็บภาษีเหล็กทำกระป๋อง ทั้งทินเพลต และทินฟรี จากจีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน อียู เป็นครั้งที่ 4 ยาวอีก 6 เดือนหลังสิ้นสุด 12 พ.ค.66 หวั่นผู้ประกอบการอาหารเสียศักยภาพแข่งขันในเวทีโลก และผู้บริโภคซื้ออาหารกระป๋องแพงขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.)  ได้พิจารณาต่ออายุการยกเว้นเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) สินค้าเหล็กสำหรับผลิตเป็นกระป๋องบรรจุอาหาร ทั้งสินค้าเหล็กแผ่นชุบหรือเคลือบด้วยดีบุกทั้งชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน (ทินเพลต) ที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหภาพยุโรป (อียู) และเหล็กแผ่นชุบหรือเคลือบด้วยโครเมียมทั้งชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน (ทินฟรี) จากจีน เกาหลีใต้ และอียู โดยไม่รวมสินค้าที่ผ่านการเคลือบ Lacquering หรือ Laminating หรือ Printing ออกไปอีก 6 เดือน หรือจนถึงวันที่ 12 พ.ย.66 หลังจากการยกเว้นการเก็บภาษีดังกล่าวได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 12 พ.ค.66

โดยการต่ออายุครั้งนี้ เป็นการต่ออายุยกเว้นเก็บภาษีเอดีครั้งที่ 4  นับตั้งแต่การยกเว้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 พ.ย.64-12 พ.ค.65 จากนั้นต่ออายุครั้งที่ 2 อีก 6 เดือน วันที่ 13 พ.ค.-12 พ.ย. 65 และต่ออายุครั้งที่ 3 อีก 6 เดือน วันที่ 13 พ.ย.65-12 พ.ค.66

สำหรับการยกเว้นเก็บภาษี แม้ยังพบการทุ่มตลาดในไทยต่อเนื่อง (ราคาสินค้าที่นำเข้ามาขายในไทยต่ำกว่าที่ขายในประเทศผู้ผลิต) แต่ทตอ. ได้พิจารณาถึงประโยชน์ของอุตสาหกรรมภายใน ผู้บริโภค และประโยชน์สาธารณะ ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.ตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ.2542 ที่เห็นว่า หากเก็บภาษีเอดีจะกระทบต่อผู้ใช้เหล็กทั้ง 2 ชนิด ที่จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก และสุดท้ายผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะอาจต้องซื้อสินค้าราคาที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอาหารกระป๋อง

ด้านนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า การยกเว้นเก็บภาษีเอดีอีก 6 เดือน เป็นประโยชน์กับทั้งผู้ใช้เหล็กทั้ง 2 ชนิด และผู้ผลิตในประเทศ ที่จะทำให้ต้นทุนลดลง ไม่ต้องเสียภาษีเอดีสำหรับสินค้านำเข้า และเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นไปตามข้อตกลงของผู้ประกอบการทั้ง 2 กลุ่ม โดยผู้ใช้ ผู้นำเข้า ตกลงที่จะรับซื้อเหล็กทั้ง 2 ชนิดจากผู้ผลิตในประเทศทั้งหมดราคาที่สอดคล้องกับราคาตลาดโลก โดยสาหตุที่ยังต้องนำเข้า เพราะการผลิตในประเทศไม่เพียงพอ และผลิตได้เพียงครึ่งหนึ่งของความต้องการใช้เท่านั้น จึงยังต้องนำเข้าอีกครึ่งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ทตอ.ได้เปิดไต่สวนการทุ่มตลาดเหล็กทั้ง 2 ชนิด จาก 4 ประเทศตามที่ผู้ผลิตเหล็กของไทยยื่นเรื่อง เพราะมีการทุ่มตลาด จึงได้รับความเสียหายจากการนำเข้า และหลังการไต่สวน พบว่า มีการทุ่มตลาดจริง จึงเรียกเก็บภาษีเอดีเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.64-13 พ.ย.69 แต่เนื่องจากมีผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป หากเก็บภาษีเอดี อาจกระทบต่อผู้ใช้และผู้บริโภค ทตอ.จึงยกเว้นการเก็บภาษีมาอย่างต่อเนื่องรวม 4 ครั้งแล้ว 

อย่างไรก็ตาม หากครบกำหนดยกเว้นแล้ว และทตอ.ไม่พิจารณายกเว้นจัดเก็บให้อีก ทินฟรีจากจีน จะถูกเรียกเก็บภาษีเอดีอัตรา 0-24.73% ของราคาซีไอเอฟ (ราคาสินค้ารวมค่าประกันภัยและค่าขนส่ง), เกาหลีใต้ 0-17.06% และยุโรป 18.52% จนถึงเดือนพ.ย.69 จากนั้นทตอ. จะพิจารณาใหม่ว่ายังจำเป็นต้องเก็บอากรเอดีต่อหรือไม่ ถ้าไม่จำเป็นจะยกเลิก ส่วนทินเพลตจากจีน จะถูกเรียกเก็บอัตรา 0-17.46%, เกาหลีใต้ 0-22.67% , ไต้หวัน 4.28-20.45% และยุโรป 5.82% จนถึงเดือนพ.ย.69 และทบทวนใหม่หลังครบ 5 ปีเช่นกัน