ส่งออกหดตัว ต้นทุนแพง ฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ เดือนเม.ย. ปรับลดในรอบ 4 เดือน

ส่งออกหดตัว ต้นทุนแพง ฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ เดือนเม.ย. ปรับลดในรอบ 4 เดือน

ส.อ.ท. เผยดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม เดือนเม.ย. 66 ปรับลดครั้งแรกในรอบ 4 เดือน สะท้อนภาคผลิตชะลอตัว จากอุปสงค์ต่างประเทศอ่อนแอ ผู้ประกอบการกังวลต้นทุนแพง จากค่าไฟ ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย

นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมเปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนเม.ย. 2566 จากการสำรวจผู้ประกอบการจำนวน 1,164 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ระดับ 95.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 97.8 ในเดือนมี.ค. ปรับตัวลดลงครั้งแรกใน 4 เดือน 

เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของค่าดัชนีฯ พบว่าปรับตัวลดลงเกือบทุกองค์ประกอบ ทั้งดัชนีฯ คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ ยกเว้นต้นทุนประกอบการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ที่ปรับตัวลดลงโดยมีปัจจัยลบจากการชะลอตัวของภาคการผลิต เนื่องจากวันหยุดต่อเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่อุปสงค์ต่างประเทศยังคงอ่อนแอ สะท้อนจากดัชนีคำสั่งซื้อและยอดขายต่างประเทศปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากผลกระทบเศรษฐกิจโลกถดถอย 

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมัน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทยอยปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs มีภาระหนี้เพิ่มขึ้น 


 

ส่งออกหดตัว ต้นทุนแพง ฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ เดือนเม.ย. ปรับลดในรอบ 4 เดือน “หลายกลุ่มอุตสาหกรรมมีความเชื่อมั่นลดลง โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก เนื่องจากคู่แข่งที่มีมากขึ้น ทั้งจากจีนและเวียดนาม ในขณะที่ความต้องการในตลาดส่งออกหลักชะลอตัว ทำให้การผลิตในเดือนที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อสต๊อกสินค้าเท่านั้น”

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากอัตราค่าระวางเรือที่ทยอยปรับลดลงตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 รวมทั้งการบริโภคในประเทศโดยรวมขยายตัวได้จากภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในประเทศ

"ส.อ.ท. เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเกิดขึ้นได้โดยเร็ว ด้วยผลการเลือกตั้งได้สะท้อนให้เห็นฉันทามติของประชาชน และกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดย ส.อ.ท. พร้อมทำงานร่วมกับทุกรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ"

สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 105.0 ปรับตัวลดลง จาก 106.3 ในเดือนมี.ค. เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูงจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าชะลอตัว ส่งผลลบต่อภาคการส่งออกของไทย ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและราคาวัตถุดิบในตลาดโลก ทำให้ต้นทุนการผลิตยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะค่าไฟฟ้า

โดย ส.อ.ท. มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐที่สำคัญ ได้แก่ 

1.ส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้า และกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) และอเมริกาใต้ รวมทั้งเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า

2.ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า อาทิ จัดสรรงบประมาณเป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบและลดต้นทุนการผลิตให้กับภาคอุตสาหกรรม