ภาคอสังหาฯ เสนอฟังเสียงเอกชนฟื้นเศรษฐกิจ

เสนอให้รัฐบาลใหม่ระดมความเห็นของภาคเอกชน และทำงานร่วมกับฝ่ายวิชาการเพื่อหาแนวทางในใช้ศักยภาพ หรือ จุดแข็งของประเทศไทยในการขับเคลื่อนประเทศภายใต้พลวัตของโลกที่เปลี่ยนไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

นายมีศักดิ์ ชุณหรักษ์โชติ อดีตนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เสนอให้รัฐบาลใหม่ระดมความเห็นของภาคเอกชน และทำงานร่วมกับฝ่ายวิชาการเพื่อหาแนวทางในใช้ศักยภาพ หรือ จุดแข็งของประเทศไทยในการขับเคลื่อนประเทศภายใต้พลวัตของโลกที่เปลี่ยนไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย โดยอาศัยจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวมาต่อยอดกับภาคอสังหาฯ เพื่อเพิ่มกำลังซื้อจากความต้องการของคนต่างชาติ ที่เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ


หนึ่งในนั้นคือการนำเสนอกฎหมายให้ต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรได้เพื่อสร้างแต้มต่อใหม่ทางเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินเข้ามาในระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพราะกระแสความต้องการที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติในเมืองไทยเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับข้อเสนอของ พีระพงศ์ จรูญเอก นายกสมาคมอาคารชุดไทย ที่ก่อนหน้า เสนอให้รัฐบาลใช้สิทธิประโยชน์จากวีซ่ากับคนต่างชาติเพื่อดึงดูดคนต่างชาติ ให้มาซื้อคอนโดมิเนียม อาทิ ซื้อคอนโดราคา 3 ล้านบาท ได้วีซ่า 3 ปี ซื้อคอนโด 5 ล้านบาท ได้วีซ่า 5 ปี หรือซื้อ 10 ล้านบาท ได้วีซ่า10 ปี เป็นต้น

หวั่นดอกเบี้ยสูงฉุดกำลังซื้อ

นายอิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งเป็นประเด็นแรกที่ทุกฝ่ายต้องยอมรับ เพราะหากไม่ยอมรับประเด็นนี้จะนำไปสู่สิ่งที่ไม่ควรจะเกิด เช่น การประท้วงจากการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งตามมา ประการที่สองอยากเห็นการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างราบรื่นไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม
“ไม่มีพรรคเดียวที่จะได้จัดตั้งรัฐบาล เรื่องแรกที่ควรประกาศให้ชัดเจนก็คือ ช่วงระยะเวลาสั้นๆ นโยบายจะทำอย่างไร มีอะไรที่สามารถทำได้ภายในระยะเวลา 3-6เดือนจะดำเนินการอะไรบ้างตามที่หาเสียงเอาไว้”
สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์บางเรื่องเกี่ยวข้องกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างมาตรการ “แอลทีวี”อาจต้องใช้เวลาในการประสานงานและทำความเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ส่วนมาตรการทางการคลัง อยากให้รัฐบาลเข้ามาดำเนินการเพื่อเกิดความต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนลดลงจาก 3% เหลือ 1% ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องการให้ทบทวน แต่ที่สำคัญอยากให้รัฐบาลนิ่งก่อนเพื่อไม่เกิดปัญหาและทำให้บรรยากาศเป็นบวก ประการสองอยากให้รัฐบาลดูแลเรื่องสภาพคล่องทางการเงินในระบบเศรษฐกิจ มิเช่นนั้นจะมีผลในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย แม้จะเป็นผลทางอ้อมแต่ก็มีผลกระทบต่อภาคอสังหาฯ โดยเฉพาะผู้ที่กู้เงินซื้อบ้าน ถ้าดอกเบี้ยสูงขึ้น ต้องรับภาระผ่อนบ้านมากขึ้น จึงอยากให้ดูแลเสถียรภาพทางการเงิน เพราะมีผลทำให้เกิดเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นตามไปด้วย

ลดหย่อนภาษีกระตุ้นธุรกิจสร้างบ้าน

นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเสนอให้รัฐบาลใหม่กระตุ้นและสนับสนุนผู้สร้างบ้านผ่านการนำสัญญาปลูกสร้างบ้านที่จดอากรแสตมป์ (อ.ส.4) มาลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาในรอบภาษีปีถัดไปได้ ตามเงื่อนไขสัดส่วนและราคาปลูกสร้างบ้านไม่เกิน 100,000 บาท หรือ 1 ล้านบาท ลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นความต้องการของอุตสาหกรรมรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้น รัฐบาลจะกระตุ้นรายปี หรือจะกระตุ้นตลอดไปเหมือนประกันชีวิตก็ได้ 
รวมทั้งในส่วนของมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนองบ้าน ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท นั้นอยากให้ครอบคลุมตลาดรับสร้างบ้าน เช่นเดียวกับธุรกิจบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม