เศรษฐกิจ EEC ปี 66 เผชิญปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน

สำนักยุทธศาสตร์องค์กร สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยและอีอีซีไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจอีอีซีในปี 2565 เติบโตที่ 3.9% 

ขณะที่คาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2566 เติบโต 4.5% โดยมีปัจจัยจากการเดินทางระหว่างประเทศที่ปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะการกลับมาเปิดประเทศของจีนที่ช่วยให้ภาคบริการการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาคเอกชนสามารถเติบโตได้ดีจากรายได้ภาคการเกษตรและท่องเที่ยว 

ประกอบกับการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนในประเทศตามทิศทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้เศรษฐกิขยายตัวในปีนี้ โดยคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นเป็น 24.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 11.2 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามาองในระยะข้างหน้า ประกอบด้วย ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง โดยคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2566 จะอยู่ที่ 2.9% ขณะเดียวกันจะเกิดความผันผวนของตลาดการเงินอย่างมากเนื่องจากทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของประเทศต่างๆ ซึ่งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นยังส่งผลต่อภาระทางการเงินของภาคเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและเอสเอ็มอีที่ได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการพักชำระหนี้ที่กำลังจะสิ้นสุดลง

นอกจากนี้ การชะลอการใช้จ่ายของภาครัฐและความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังการเลือกตั้งโดยกรอบการใช้จ่ายของภาครัฐมีทิศทางลดลงตามกรอบงบประมาณและการสิ้นสุด พรก. เงินกู้โควิด-19 รวมทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐจิกมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาว่าจะส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจมากแค่ไหนในระยะข้างหน้า