พปชร.ชู ‘กองทุน SE’ สร้างอาชีพแก้ยากจน

ที่พรรคพลังประชารัฐ ได้การจัดเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ตัวแทนชุมชน นักวิชาการสายเศรษฐศาสตร์ และผู้ประกอบการ เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบาย ของพรรคภายใต้หัวข้อ “เพิ่มพลังทุน เพิ่มพลังเศรษฐกิจ” นำโดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ  พร้อมด้วย นางนฤมล รัตนาภิบาล, นายศันสนะ สุริยะโยธิน, นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ และนายกิตติภูมิ นีละไพจิตร์ ตัวแทนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 

โดยตัวแทนชุมชนผู้ประกอบการที่ได้เข้าร่วมวงเสวนาในวันนี้นั้น ได้มีการสะท้อนปัญหาถึงการประกอบธุรกิจค้าขายที่มีผู้ค้ามากกว่าผู้ซื้อ ที่ต้องการการเสริมเรื่องเงินทุน และช่องทางการหารายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตรงกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการ "เพิ่มพลังสร้าง -เพิ่มพลังเสริม และเพิ่มพลังสนับสนุน"

โดยว่าที่ผู้สมัครส.ส.ก็ได้เล่าถึงนโยบายนี้ ว่า เป็นการขับเคลื่อน“ธุรกิจเพื่อสังคม” ในการลดการพึ่งพางบประมาณประเทศ ซึ่งจะเน้นของการแสวงหารายได้ ด้วยการระดมทุน  ผ่านกองทุนSE  ด้วย การร่วมมือกับเอกชน และตลาดทุน  ในการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมธุรกิจเพื่อสังคมตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม การพัฒนาและส่งเสริมอาชีพประชาชน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งเป็นกองทุนสนับสนุนเงินเพื่อการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง เพื่อเพิ่มจำนวนนักธุรกิจในชุมชนที่มีคุณภาพ 

ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวยังมีนโยบายแยกย่อย คือ1.การเพิ่มพลังสร้าง คือ ต้องชูจุดเด่นสร้างจุดขายให้กับนวัตกรรม ในการสร้างโอกาสใหม่ สร้างอาชีพชุมชน ด้วยสินค้า “Made in Bangkok”  สู่สากล การมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชนช่วยการพัฒนาชุมชนของตัวเอง  2. “เพิ่มพลังเสริม” ให้ทักษะและความรู้ในการสร้างอาชีพและฝึกทักษะวิชาชีพ รวมถึงเรื่องเทคโนโลยี การทำตลาดออนไลน์ และการบริการผ่านเทคโนโลยี และ 3.เพิ่มพลังสนับสนุน มี "เงินทุนไร้คนค้ำประกัน , ทุนวัฒนธรรม ใช้ "Soft Power" เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการใหม่ ยกเว้นภาษีลดภาษีให้ผู้ประกอบการใหม่

นอกจากนี้ยังแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่ค้าขายจากบริบทจริง การเสนอแนวทางพัฒนาตลาดใหม่ จัดการพื้นที่ ส่งเสริมอัตลักษณ์แต่ละท้องถิ่น การขยายแนวทางการขาย และส่งเสริมผู้ประกอบการค่ะ
 
ด้าน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวว่า ว่าที่ส.ส.กทม.ของพรรคให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจปากท้อง โดยหาวิธีการที่จะไม่กระทบกับงบประมาณของรัฐ และไม่สร้างภาระเพิ่มให้กับพี่น้องประชาชน โดยหันมาใช้ศักยภาพของตลาดทุน ผลักดันกองทุน SE ให้เกิดขึ้น และธุรกิจเพื่อสังคม