‘อาคม’ ชี้เศรษฐกิจไทยโตช้าแต่มั่นคง!

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อาคม เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวปาฐกถาพิเศษ "เศรษฐกิจกับโอกาส ภาคอสังหาฯ”ในงานสัมมนา Property Focus : Big Change to Future โอกาส และความท้าทาย จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ

โดยระบุว่า ทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งปีที่ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันผู้ประกอบการมีการลงทุนที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยภาคธุรกิจอสังหาฯ ถือเป็นดัชนีที่ชี้วัดภาพรวมเศรษฐกิจไทยว่าจะขยายตัวได้ดีหรือไม่

สำหรับทิศทางการขยายตัวเศรษฐกิจไทยนั้น จะเห็นได้ว่า มีลักษณะการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปที่ 3-4% โดยแม้ว่า ในปี 2565 อัตราการขยายตัวจะต่ำกว่าคาดการณ์ หรือมีอัตราการขยายตัวที่ 2.6% แต่ถ้าเทียบกับปี 2564 ที่ขยายตัวเพียง 1.5% ถือว่า มีการเติบโต สอดคล้องกับความเห็นของไอเอ็มเอฟที่มองเศรษฐกิจอาเซียนเติบโตสวนทางกับประเทศขนาดใหญ่

“เราไม่ห่วงเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจ เพราะเรามีการเติบโตทีละสเต็ป ไม่ได้ตก แต่เติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งสำคัญกว่า เพราะเราเห็นบางประเทศ จีดีพี กระโดด 6-8% เช่น สหรัฐ แต่พอเจอโควิดอีกรอบ จีดีพีก็ลงเร็ว โดยการเติบโตของเศรษฐกิจไทยนั้น ก็สอดคล้องกับไอเอ็มเอฟที่มองเศรษฐกิจอาเซียนจะเป็นลักษณะสวนทาง Global ฉะนั้น เราจึงเป็น power house ของโลก ดังนั้น เราจึงต้องดึงดูดนักลงทุนให้มากที่สุด และเชื่อว่า การลงทุนปีนี้ เริ่มขับเคลื่อนไปในการก่อสร้าง”

เหตุผลที่เศรษฐกิจเราสามารถเติบโตได้ เพราะนโยบายภาครัฐที่เข้ามาดูแล โดยเฉพาะการกู้เงิน 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อเข้ามาเยียวยาทุกภาคธุรกิจ และรวมถึง การออกมาตรการออกมาเพื่อดูแลลูกหนี้ และการเติมเงินเข้าไปในแต่ละภาคธุรกิจ ซึ่งล่าสุด คณะรัฐมนตรีก็มีมติต่ออายุซอฟต์โลนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ซึ่งมีวงเงินเหลือถึง 1.65 หมื่นล้านบาท 

ส่วนภาคธุรกิจขนาดเล็กนั้น ทางธนาคารออมสินก็พร้อมที่จะช่วยเหลือด้านเงินทุน ซึ่งภาคธุรกิจโรงแรมก็สามารถเข้าไปใช้สินเชื่อดังกล่าวได้

สำหรับภาคธุรกิจหลักที่จะเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ คือ ภาคการท่องเที่ยว และการบริโภค ซึ่งจะสนับสนุนให้ภาคธุรกิจอสังหาฯ มีการเติบโตได้ต่อเนื่อง และจะช่วยทดแทนภาคธุรกิจส่งออกที่ยังได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ยังเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศทั้งสหรัฐกับจีน และ รวมถึง ยูเครนกับรัสเซีย

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์