ประวิตรสั่งเคลียร์บางปะกง รับมือน้ำท่วม-น้ำทะเลหนุนฤดูแล้ง

ประวิตรสั่งเคลียร์บางปะกง  รับมือน้ำท่วม-น้ำทะเลหนุนฤดูแล้ง

แม่น้ำบางปะกง เป็นเครื่องมือสำคัญในการระบายน้ำในช่วงน้ำหลาก แต่ยังมีปัญหาน้ำทะเลหนุนในช่วงแล้ง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงสั่งให้กรมชลระทานเร่งปรับปรุง เพิ่มความสามารถการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนทดน้ำบางปะกงให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด

นาย สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ตามที่พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำบางปะกง การเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเพื่อการผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคและบริโภค ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี นั้น

 

ประวิตรสั่งเคลียร์บางปะกง  รับมือน้ำท่วม-น้ำทะเลหนุนฤดูแล้ง

ประวิตรสั่งเคลียร์บางปะกง  รับมือน้ำท่วม-น้ำทะเลหนุนฤดูแล้ง

ได้ระบุว่ารัฐบาลมีความห่วงใยปัญหาเรื่องน้ำ ทั้งภาวะน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน และปัญหาน้ำเค็มรุกเป็นประจำในช่วงฤดูแล้ง ที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา รวมถึงจังหวัดต่างๆ ในลุ่มน้ำบางปะกง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยต้องร่วมกันประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อม เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ ทั้งในช่วงฤดูฝน(เดือนก.ย.-ต.ค.)

โดย เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตาม13มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างรอบคอบ ขณะเดียวกัน ต้องหาแนวทางแก้ไขให้เป็นระบบในระยะยาวควบคู่ไปด้วย เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำในอนาคต

ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ สทนช. ประสานและบูรณาการขับเคลื่อนแผนหลักการพัฒนาและบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ร่วมกับลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ และรายงานต่อ กนช. อีกทั้งได้สั่งให้กรมชลประทานเร่งพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนโดยเฉพาะโครงการที่ได้รับงบประมาณ และโครงการสำคัญที่ผ่าน กนช. แล้ว

รวมถึงการปรับปรุงเพิ่มความสามารถการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนทดน้ำบางปะกง พร้อมเร่งดำเนินการก่อสร้างแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนด เพื่อสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับแผนงานในการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญพื้นที่ลุ่มน้ำบางปะกงว่า สทนช. ได้วิเคราะห์กลั่นกรองเตรียมแผนโครงการที่สำคัญไว้ ที่สามารถดำเนินการได้ในปี 2566 -2567 รวม 27 โครงการ หากหน่วยงานต่างๆ สามารถดำเนินการได้ตามแผน จะช่วยเพิ่มปริมาณการกักเก็บได้ 792 ล้าน ลบ.ม. และมีพื้นที่รับประโยชน์ 1,522,883 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 371,133 ครัวเรือน

 

ประวิตรสั่งเคลียร์บางปะกง  รับมือน้ำท่วม-น้ำทะเลหนุนฤดูแล้ง

เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพแผนการผลิตน้ำประปา กปภ.สาขาบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา การอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองแขนนาง จ.ปราจีนบุรี จะได้น้ำเพิ่มขึ้น 4.12 ล้าน ลบ.ม. โครงการระบบสูบกลับอ่างเก็บน้ำคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทรา จะได้น้ำเพิ่มขึ้นอีก 6 ล้าน ลบ.ม. ระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชน อ.เมืองปราจีนบุรี จะมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 2,231 ไร่ การก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนท่าช้าง จ.นครนายก พื้นที่ได้รับประโยชน์ 2,713 ไร่ นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบ้านหนองกระทิง จ.ฉะเชิงเทรา ความจุ 15 ล้าน ลบ.ม.

ส่วนการพัฒนาแหล่งน้ำรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นั้น มีกลุ่มโครงการที่ต้องขับเคลื่อนรวม 17 โครงการ และจะได้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นรวม 556.80 ล้าน ลบ.ม. เช่น การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จ.จันทบุรี โครงการเครือข่ายอ่างเก็บน้ำประแสร์ อ่างเก็บน้ำหนองค้อ อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี และการปรับปรุงขยาย กปภ. พัทยา แหลมฉบัง ศรีราชา จ.ชลบุรี การก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำอ่างเก็บน้ำคลองพระสะทึง อ่างเก็บน้ำคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทรา  การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองกะพง จ.ฉะเชิงเทรา และการก่อสร้างระบบสูบกลับอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชโลธร จ.ชลบุรี 

สำหรับโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง หรือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนบางปะกงในปัจจุบันนั้น ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2539 และก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2542 โดยได้รับการสนับสนุนจาก Japan International Cooperation Agency (JICA) ในการศึกษาและกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ ตั้งแต่เมื่อปี 2533

แต่หลังโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ และได้ทำการเปิดทดลองใช้ พบว่าได้เกิดปัญหาน้ำทางตอนบน ด้านหลังบานประตูเขื่อนได้เกิดภาวะเน่าเสีย ส่วนน้ำท้ายเขื่อนทางตอนล่างเมื่อถูกปิดกั้น ทำให้เกิดปัญหาน้ำเอ่อล้นออกนอกลำน้ำจากน้ำทะเลหนุนในขณะน้ำขึ้น และในขณะที่น้ำลงตามระดับน้ำทะเล ได้เกิดปรากฏการณ์ตลิ่งทรุดตัวและพังทลายลงเป็นแนวยาวตลอดลำน้ำทางตอนล่าง ส่งผลทำให้ประชาชนที่อยู่อาศัยริมฝั่งลำน้ำได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

ทางกรมชลประทาน จึงได้ยุติการปิดกั้นลำน้ำ และไม่มีการใช้ประโยชน์เขื่อนทดน้ำบางปะกงอย่างเต็มประสิทธิภาพมาอย่างยาวนานถึงกว่า 23 ปีเต็มแล้ว โดยทางกรมชลประทานได้มีการใช้ประโยชน์เพียงครั้งคราว ในการลดบานประตูเพื่อสกัดกั้นผักตบชวาและวัชพืชที่ไหลมาตามลำน้ำ และชะลอการไหลขึ้นของน้ำเค็มได้เพียงชั่วขณะเท่านั้น

นาย สุรสีห์ ยังกล่าวว่า  พลเอก ประวิตร ได้แสดงความห่วงใยการเข้าถึงน้ำประปาตามแผนแม่บทน้ำฯ 20 ปี ซึ่งการประปาส่วนภูมิภาค ได้รายงายว่าปัจจุบัน ได้วางแผนการใช้น้ำให้ครอบคลุมความต้องการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้งอย่างเพียงพอ 

ประวิตรสั่งเคลียร์บางปะกง  รับมือน้ำท่วม-น้ำทะเลหนุนฤดูแล้ง

พร้อมหาแหล่งน้ำสำรองไว้แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ในส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา  มีโครงการสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำให้ครอบคลุมในพื้นที่ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ผ่านอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด โดยบูรณาการและเร่งสร้างการรับรู้และส่งเสริมให้ภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในพื้นที่ด้วย