ม.หอการค้าไทย มองทั้งปีจีดีพีไทยโต 3.1% แม้โลกเสี่ยงเจอภาวะเศรษฐกิจถดถอยย
ม.หอการค้าไทย เผยผลสำรวจภาค ธุรกิจกังวลค่าครองชีพพุ่งกระทบต้นทุน ชี้ ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ราคาพลังงาน เงินเฟ้อ ทำเศรษฐกิจโลกถดถอย กระทบประเทศคู่ค้าของไทย กดดันให้จีดีพีไทยลดลงมา หวังภาคท่องเที่ยวช่วย มั่นใจจีดีพีไทยยังโตได้ 3.1%
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ฯได้สำรวจความเห็นจากภาคธุรกิจถึงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกต่อธุรกิจไทยในปัจจุบัน จำนวน 850 ตัวอย่างทั่วประเทศ สำรวจระหว่างวันที่ 6-12 ก.ย. 2565 พบว่า ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับผลกระทบทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจและกำไร แต่ในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2565 ยังมีความเสี่ยงในระดับปานกลางถึงสูงที่ประเทศคู่ค้าหลักของไทย อาทิ จีน และสหรัฐฯ จะประสบกับภาวะเศรษฐกิจ ถดถอย (Recession) ซึ่งในที่สุดก็จะส่งผลกระทบต่อมายังเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนปัญหาน้ำท่วมในประเทศหลายพื้นที่โดยคาดว่ากระทบด้านความเสียหายประมาณ 5,000 ล้านบาทถือว่ากระทบต่อจีดีพีของประเทศน้อยมาก โดยทางศูนย์ฯมองว่า ไม่มีผลกับการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้มากนัก เนื่องจากพื้นที่ทางการเกษตรแม้จะได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ หากเกิดกรณีภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย คาดว่าปริมาณการค้าโลกจะลดลง 1.0-2.0% ฉุดส่งออกไทยลดลง 185,596 ล้านบาท ส่งผลให้การบริโภคเอกชน การลงทุนเอกชนการนำเข้าสินค้า ลดลง 200,282 ล้านบาท ฉุดจีดีพีลดลง 1.22%
ดังนั้นในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของปี 65 จึงมีความเสี่ยงระดับปานกลางถึงสูงที่ประเทศคู่ค้าหลักของไทยจะประสบกับกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ศูนย์ฯคาดว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ จะมีผลกดดันให้จีดีพี ในปี 2565 ให้ลดลงมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ถ้าหากสามารถผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นไปใกล้เคียงหรือมากกว่า 10 ล้านคน ก็จะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวไปได้เกือบทั้งหมด ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยทะลุ 10 ล้านคน ซึ่งจะสร้างเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจกว่า 2.4 แสนล้านบาท
ศูนย์ฯยังคงคาดการณ์เดิมว่าในปี 2565 จีดีพีจะอยู่ที่ 3.1% ส่งออกอยู่ที่ 5-6% และคาดการณ์ว่าในปี 2566 แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีหน้าประเมินว่าจะขยายตัวไม่โดดเด่น เพราะความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกมีการชะลอตัวจากราคาน้ำมันแพง ส่งผลต่อเงินเฟ้อ ต้นทุนธุรกิจสูง โดยจีดีพีจะเติบโตอยู่ในกรอบ 3-3.5% อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์พยากรณ์จะมีการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจอีกครั้งในเดือนพ.ย.นี้ต่อไป