คลังยอมสูญ 9.8 หมื่นล้านบาท ‘อุ้ม’ ดีเซลถึงสิ้นปี

คลังชง ครม. อังคารหน้าต่ออายุมาตรการภาษีดีเซล 5 บาทต่อลิตรถึงสิ้นปีนี้ ยอมสูญรายได้ 3 หมื่นล้าน รวมทั้งปีนี้รัฐสูญรายได้เฉียดแสนล้าน จากอุ้มดีเซล พร้อมห่วงผลกระทบต่อยอดจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 66

ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 กันยายน นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลออกไปจนถึงสิ้นปี หลังจากที่มาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ย.นี้

กระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงาน ได้หารือกันเมื่อวันที่ 8 กันยายน ถึงการขยายระยะเวลามาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชน โดยรัฐบาลได้ขอให้กระทรวงการคลังขอลดภาษีชงอีกลิตรละ 5 บาท ขณะที่ กระทรวงการคลังเห็นว่า การปรับลดอัตราภาษีดังกล่าวจะกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2566 ซึ่งจะเริ่มต้นปีงบประมาณตั้งแต่เดือนต.ค.นี้

กระทรวงการคลังเป็นห่วงเรื่องของการการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2566 เพราะมีเป้าหมายจัดเก็บสูงตามรายจ่ายที่ตั้งเป้าหมายไว้ ดังนั้น จึงไม่ต้องการลดอัตราภาษีถึง 5 บาทต่อลิตร แต่อยากให้ลดเพียง 1 บาทต่อลิตรเท่านั้น”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ใช้มาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลทั้งหมด 3 ครั้ง โดยครั้งแรกช่วงวันที่ 18 ก.พ. - 20 พ.ค.65 ลดภาษีลิตร 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รัฐสูญรายได้ประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท ครั้งที่ 2 ช่วงวันที่ 21 พ.ค. - 20 ก.ค. เป็นเวลา 3 เดือน ครั้งนี้ลดภาษีดีเซลลงลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 3 หมื่นล้านบาท ครั้งที่ 3 ช่วงวันที่ 21 ก.ค. - 20 ก.ย. เป็นเวลา 2 เดือน ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 2 หมื่นล้านบาท โดยมาตรการลดภาษีดีเซลทั้ง 3 ครั้ง ทำให้รัฐสูญรายได้ 6.8 หมื่นล้านบาท

“หากขยายมาตรการลดภาษีดีเซลลงลิตรละ 5 บาทไปจนถึงสิ้นปี จะทำให้รัฐสูญรายได้เพิ่มอีก 3 หมื่นล้านบาท รวมมาตรการลดภาษีดีเซลเพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนถึง 9.8 หมื่นล้านบาท”

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์