"หุ้นไทย" เปิดตลาดร่วง 10.35 จุด วิตกโควิดโอมิครอนระบาดรุนแรง
"หุ้นไทย" เปิดตลาดวันนี้ (20 ธ.ค.64) ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,631.38 จุด ปรับลง 10.35 จุด หรือ 0.63% โบรกเกอร์ชี้ จิตวิทยาการลงทุนถูกกระทบจากโควิดโอมิครอนที่รุนแรงขึ้น กลุ่มประเทศยุโรปพิจารณาล็อกดาวน์
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเปิดภาคเช้าวันนี้ (20 ธ.ค.2564) ดัชนี SET (SET Index) เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1,631.38 จุด ปรับลง 10.35 จุด หรือ 0.63% มูลค่าการซื้อขายราว 4.4 พันล้านบาท และยังมีแนวโน้มแกว่งตัวลงต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า คาดตลาดแกว่งออกข้างถึงแกว่งลง (Sideways/Down) แนวต้าน 1,651-1,658 จุด แนวรับ 1,633-1,627 จุด จิตวิทยาการลงทุนได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่รุนแรงขึ้น
โดยเฉพาะในยุโรปที่การติดเชื้อเร่งตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยในอังกฤษที่พบผู้ติดเชื้อรายวันทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1 แสนราย ขณะที่เนเธอร์แลนด์กลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง โดยจะครอบคลุมไปถึงช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ เพื่อสะกัดการแพร่ระบาด
ซึ่งผลวิจัย ได้แก่ 1) องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยผู้ติดเชื้อโควิด-19 โอมิครอนจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในทุก 1 วันครึ่งถึง 3 วัน หากมีการแพร่ระบาดในชุมชน และอัตราการแพร่เชื้อของโควิด-19 โอมครอน นั้นรวดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา
2) อิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน (ICL) เผยความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนนั้นมากกว่าสายพันธุ์เดลตาถึง 5 เท่า 3) ไฟเซอร์เผยโรคโควิด-19 จะระบาดไปจนถึงปี 2567 ก่อนจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นทั่วโลก
ซึ่งหมายถึงอัตราการติดเชื้อต่ำและสามารถควบคุมได้ โดยรวมความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลง ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวลงเช่นกัน
ทางด้านตัวเลขผู้ติดเชื้อภายในวันนี้ ลดระดับลงสู่ 2,525 ราย เสียชีวิต 31 ราย ขณะที่ยอดหายป่วยกลับบ้านสูงกว่ายอดผู้ติดเชื้อใหม่ที่ 4,190 ราย แต่อย่างไรก็ดี เริ่มเห็นคลัสเตอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ล่าสุด พบในกรุงเทพมหานครฯ ได้แก่ คลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้างพื้นที่เขตคลองเตย และคลัสเตอร์ร้านหมูกระทะในพื้นที่เขตบางกะปิ
ขณะที่เข้าใกล้ช่วงปีใหม่ซึ่งจะเป็นช่วงที่เกิดการสังสรรค์จำนวนมาก ทำให้เดือน ม.ค.2565 ต้องจับตาความเสี่ยงในการแพร่ระบาด
โดยกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ จากเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงขาลง (ดาวไซด์) จากการแพร่ระบาดที่รุนแรงมากขึ้นของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ขณะที่ภายในต้องจับตาคลัสเตอร์ใหม่ๆ คงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่ 60%
เน้นกลุ่มที่เป็น Mega Theme ได้แก่ โรงไฟฟ้า (GPSC และ GULF) กลุ่มสื่อสารฯ (ADVANC และ TRUE) กลุ่มส่งออก (KCE, HANA และ SAPPE) กลุ่มธนาคาร (SCB และ KBANK) กลุ่มการเงินเพื่อการบริโภค (Consumer Finance) (JMT และ TIDLOR) และกลุ่ม Digital Technology Consultant