Longevity Living พลิกเกมอสังหาฯโอกาสใหม่ ‘บ้าน-คอนโด’

Longevity Living รับเศรษฐกิจอายุยืน! พลิกเกมอสังหาฯ โอกาสใหม่ ‘บ้าน-คอนโด’ ที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังซื้อของคนอายุยืน ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดี
KEY
POINTS
- การเข้าสู่สังคมสูงวัยของไทยก่อให้เกิด "Longevity Economy" หรือเศรษฐกิจอายุยืน
- ผู้พัฒนาอสังหาฯ ออกแบบบ้านและคอนโดที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้สูงวัยและคนทุกวัย
- จะเน้นการออกแบบUniversal Design ทำเลที่เข้าถึงระบบสาธารณสุขได้ง่าย และการนำเทคโนโลยี Smart Home มาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย
ประเทศไทยกำลังก้าวผ่านจุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้างครั้งสำคัญ จากสังคมวัยทำงานสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ตัวเลขผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปทะลุ 20% และกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ Super Aged Society ภายในทศวรรษหน้า ภาพดังกล่าวไม่ได้สะท้อนเพียงความท้าทายด้านสวัสดิการ หากยังเปิดฉาก “Longevity Economy” เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังซื้อของคนอายุยืน สุขภาพดี และต้องการคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน
จากสังคมสูงวัยสู่ Longevity Economy เมื่อ “อายุยืน” กลายเป็นพลังเศรษฐกิจ จากการคาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายของผู้สูงอายุที่ขยับจากกว่า 2 ล้านล้านบาท สู่ 3.5 ล้านล้านบาทในอีก 10 ปีข้างหน้า คือสัญญาณชัดว่ากลุ่มนี้ไม่ใช่ตลาดเฉพาะทางอีกต่อไป แต่เป็น “ตลาดหลัก” ที่ทุกธุรกิจต้องหันมาทบทวน โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือโครงสร้างพื้นฐานของชีวิตยาวไกล
บ้านไม่ใช่เรื่องปลายทาง วางแผนเกษียณตั้งแต่วันนี้
จากแบบสำรวจพฤติกรรมการซื้อ-เช่าอสังหาฯ และการวางแผนอนาคตของ ดีดี พร็อพเพอร์ตี้ พบว่าผู้บริโภคยุคใหม่เริ่มคิดถึงวัยเกษียณเร็วขึ้น เกือบ 9 ใน 10 มองว่าการเตรียมพร้อมอนาคตเป็นเรื่องจำเป็น เป้าหมายไม่ได้หยุดแค่เงินออม แต่ครอบคลุมสุขภาพ อิสรภาพทางการเงิน ความสัมพันธ์ในครอบครัว และการใช้ชีวิตอย่างไร้ภาระหนี้
น่าสนใจว่า “กรุงเทพฯ” ยังคงครองอันดับเมืองเกษียณในฝัน ด้วยความพร้อมของระบบสาธารณูปโภคและสถานพยาบาลมาตรฐานสูง ขณะที่เชียงใหม่ นครราชสีมา และหัวเมืองใหญ่รายล้อมกรุงเทพฯ กำลังไต่ระดับขึ้นเป็นตัวเลือกสำคัญ สะท้อนว่าโจทย์หลังเกษียณไม่ใช่แค่ความสงบ แต่คือ “การเข้าถึงบริการสุขภาพ” และ “การใช้ชีวิตได้จริง”
อสังหาฯ ปรับเกม รับเทรนด์อายุยืน
ฝั่งผู้พัฒนาโครงการเริ่มขยับตัวอย่างเป็นรูปธรรม จำนวนโครงการที่อยู่อาศัย และ Nursing Home เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บ่งชี้ว่าตลาดกำลังเปลี่ยนจากการขายพื้นที่ สู่การขาย “คุณภาพชีวิตระยะยาว” โจทย์สำคัญจึงไม่ใช่การสร้างบ้านใหม่เท่านั้น แต่รวมถึงการ “ออกแบบและปรับพื้นที่บ้าน-คอนโด” ให้ตอบโจทย์ Longevity ซึ่งกลายเป็นโอกาสธุรกิจใหม่ของนักออกแบบ ผู้รับเหมา และแพลตฟอร์มอสังหาฯ ที่มองเห็นอนาคตไกลกว่ายอดขายวันนี้
บ้านแบบไหนอยู่ได้ยาว? ถอดสูตร Longevity Living
1.Universal Design อยู่สบายทุกวัย การออกแบบที่ลดความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัย ตั้งแต่พื้นกันลื่น แสงสว่าง ราวจับ ไปจนถึงระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน ไม่ได้เอื้อเฉพาะผู้สูงอายุ แต่ยกระดับความปลอดภัยให้ทุกคนในบ้าน
2.เฟอร์นิเจอร์เพื่อสรีระ ลงทุนครั้งเดียวคุ้มระยะยาว เช่น เตียง โซฟา โต๊ะอาหาร ที่ออกแบบตามหลักยศาสตร์ ช่วยลดอาการปวดเมื่อยและอุบัติเหตุเล็ก ๆ ที่สะสมเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต
3.ทำเลใกล้หมอ ใกล้ระบบขนส่ง อุ่นใจกว่า บ้านที่เดินทางสะดวก ใกล้โรงพยาบาล หรือมีบริการสุขภาพเสริมในโครงการ คือความได้เปรียบเชิงโครงสร้างของการใช้ชีวิตยาว
4.ธรรมชาติคือยาดีที่ไม่ต้องสั่งจ่าย พื้นที่สีเขียว สวนหย่อม หรือเพียงมุมต้นไม้ในบ้าน ช่วยฟื้นฟูสุขภาพกายใจ ลดความเครียด และสร้างกิจกรรมยามว่างที่มีคุณค่า
5.Smart Home ผู้ช่วยเงียบของวัยเกษียณ เทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่เป็นเครื่องมือเพิ่มความปลอดภัยและอิสระ ตั้งแต่กลอนดิจิทัล เซนเซอร์ ไปจนถึง Stairlift สำหรับบ้านหลายชั้น
6.พื้นที่ครอบครัว หัวใจของอายุยืน บ้านที่เปิดโอกาสให้ทำกิจกรรมร่วมกัน ออกกำลังกายเบาๆ หรือใช้เวลาคุณภาพ ลดความโดดเดี่ยว และเสริมสุขภาพใจอย่างยั่งยืน
บ้านที่ดี ไม่ได้ทำให้แค่อยู่ยาว แต่ “อยู่ดี”
Longevity ไม่ได้หมายถึงการนับปีที่เพิ่มขึ้น หากคือการออกแบบชีวิตให้มีคุณภาพตั้งแต่วันนี้ บ้านจึงกลายเป็นกลยุทธ์ระยะยาวของทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจเมื่อบ้านถูกออกแบบให้ผู้สูงอายุอยู่ได้อย่างปลอดภัย สมาชิกทุกวัยก็ได้รับประโยชน์ร่วมกัน นี่คือเหตุผลที่ Longevity Living ไม่ใช่เทรนด์ชั่วคราว แต่คือทิศทางใหม่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในวันที่ “อายุยืน” กลายเป็นความปกติของสังคม







