‘ไนกี้’กวาดยอดขายสินค้า NFT อันดับ 1 ,มูลค่า 185 ล้านดอลลาร์

‘ไนกี้’กวาดยอดขายสินค้า NFT อันดับ 1 ,มูลค่า 185 ล้านดอลลาร์

‘ไนกี้’ กวาดยอดขายเอ็นเอฟที 185 ล้านดอลลาร์ อันดับ1 ในแบรนด์ดังในอุตสาหกรรม แม้ช่วง3 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลง อยู่ที่ 14.4 ล้านดอลลาร์ ในเดือนก.ค.65

‘ไนกี้’ บริษัทจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชั้นนำโลก มีรายได้จากการขาย NFT (Non Fungible Tokens) จำนวน 185 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6,700 ล้านบาท จากทั้งหมด 67,200 รายการ  ซึ่งไนกี้เป็นหนึ่งในบริษัท เพียงไม่กี่แห่งที่ประสบความสำเร็จในการเข้ามาในตลาดNFT ที่เริ่มต้นเปีที่ผ่านมา ด้วยการเข้าซื้อบริษัทที่ออก NFT และรองเท้าผ้าใบสำหรับในเมตาเวิร์ส(Metavers)

สำหรับเดือนเม.ย.ปี2565 ไนกี้ได้เปิดตัวรองเท้าผ้าใบเสมือนจริงชุดแรก ที่มีชื่อว่า ‘คริปโทคิก(Cryptokicks)’ พร้อมกับจดลิขสิทธิ์ทันที ซึ่งคอลเลกชันนี้ประกอบด้วย NFTs จำนวน 20,000 ชิ้น ซึ่งหนึ่งในศิลปินที่เป็นผู้ออกแบบ คือทาคาชิ มุราคามิ (Takashi Murakami) ซึ่งงานชิ้นที่ทาคาชิเป็นผู้ออกแบบสามารถขายได้ในราคา134,000 ดอลลาร์

โดยไนกี้จดสิทธิบัตรระบบการสร้างโทเคนรองเท้าบน อีเธอเรียมบล็อกเชน ในชื่อว่าคริปโทคิกโดยระบบโทเคนดังกล่าวจะอยู่ในรูปของ ERC721 หรือ ERC1155 เพื่อใช้ในการตรวจสอบและการทำธุรกรรมของรองเท้า นอกจากนี้ โทเคนนี้ยังสามารถบันทึกข้อมูลองค์ประกอบรองเท้า รวมถึงลักษณะเฉพาะ สี สไตล์ และพื้นหลังแบบดิจิทัลได้อีกด้วย

‘ไนกี้’กวาดยอดขายสินค้า NFT อันดับ 1 ,มูลค่า 185 ล้านดอลลาร์

 สำหรับการออกโปรดักดังกล่าวทำให้ในเดืิอน เม.ย.ไนกี้สามารถทำรายได้ในการขาย NFT สูงที่สุด 12,000 ดอลลาร์ และยอดขายปรับตัวลดลงมาหลังจากเดือนพ.ค.2565 จนถึงขณะนี้ในเดือน ส.ค. ไนกี้มียอดขาย NFT อยู่ที่ 1,600  พันดอลลาร์

 แม้แบรนด์ชั้นนำที่เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ยังไม่มียอดขายเทียบเท่ากับไนกี้ เช่น ดอลเช่ แอนด์ แกบาน่า(

Dolce & Gabbana) ทำรายได้ 25.6 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กุชชี่ (Gucci)ทำรายได้ 11.5 ดอลลาร์ ปัจจุบันอาดิดาส(Adidas) คู่แข่งโดยตรงของ ไนกี้ทำยอดขายจากการขาย NFT ได้เป็นอันดับที่ 5 และมีรายได้ 10.9 ล้านดอลลาร์

แม้ว่าจำนวนธุรกรรมจะยังอยู่ในระดับที่สูงแต่มูลค่าการทำธุรกรรมในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาลดลง 95% จากยอดขาย NFT รวมในเดือน เม.ย.อยู่ 293 ล้านดอลลาร์ เดือนก.ค.อยู่ที่ 14.4 ล้านดอลลาร์