คลังเปิดไทม์ไลน์ลงทะเบียนผู้ถือบัตรคนจนเริ่ม5ก.ย.นี้

คลังเปิดไทม์ไลน์ลงทะเบียนผู้ถือบัตรคนจนเริ่ม5ก.ย.นี้

คลังเปิดไทม์ไลน์ลงทะเบียนผู้ถือบัตรบัตรคนจน เริ่มลงทะเบียนวันแรก 5 ก.ย.ถึง 19 ต.ค.65 ใช้เวลาตรวจสอบคุณสมบัติจาก 47 หน่วยงานช่วงเดือนพ.ย.ถึงม.ค.66 ประกาศรายชื่อภายในเดือนม.ค.66 คาดเริ่มใช้สิทธิบัตรใหม่ได้เดือนก.พ.นี้

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง จะเปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ลงทะเบียนเพื่อรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ(บัตรคนจน)ครั้งใหม่ในรอบปี 2565 ในวันที่ 5 ก.ย.ถึง 19 ต.ค.นี้ รวมระยะเวลา 45 วัน ผ่านจุดรับลงทะเบียนกว่า 7 พันจุด 

จากนั้น จะประกาศผลการลงทะเบียน (ข้อมูลของผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน) โดยจะประกาศทุกวันศุกร์ช่วงเดือนก.ย.-พ.ย.65 รวมระยะเวลา 60 วัน

เมื่อประกาศผลการลงทะเบียนดังกล่าวแล้ว ทาง 47 หน่วยงานจะเข้าตรวจสอบคุณสมบัติและประมวลผลช่วงเดือนพ.ย.65-ม.ค.66 จากนั้น จะประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติและเริ่มกระบวนการยืนยันตัวตน(e-KYC)ภายในเดือนม.ค.66

สำหรับผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติ จะเริ่มให้มีกระบวนการอุทธรณ์ภายในเดือนม.ค.66 รวมระยะเวลา 23 วัน ณจุดที่ลงทะเบียนหรือผ่านเว็บไซต์ ส่วนวันประกาศผลอุทธรณ์จะประกาศให้ทราบอีกครั้ง ทั้งนี้ คาดเริ่มใช้สิทธิในบัตรได้ราวปลายเดือนก.พ.นี้ 

เขากล่าวด้วยว่า คาดว่า จะมีจำนวนผู้มีสิทธิถือบัตรคนจนราว 14-15 ล้านคน จากปัจจุบันที่มียอดผู้ถือบัตรคนจน 13.3 ล้านคน ส่วนงบประมาณที่ใช้ปัจจุบันอยู่ที่ 4 พันล้านบาทต่อเดือน หรือ 4.8 หมื่นล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ดี หากผู้มีสิทธิ์จำนวนเท่าใดรัฐบาลก็จัดสรรงบตามจำนวนที่ได้รับสิทธิ์ และมีแผนจะเพิ่มเติมสวัสดิการให้ด้วย

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เปิดให้มีการลงทะเบียนบัตรคนจนครั้งแรกในปี 2559 มีผู้ลงทะเบียน 8.3 ล้านราย ผ่านคุณสมบัติ 7.7 ล้านคน จากนั้น ในปี 2560 ได้เปิดให้มีการลงทะเบียนอีกครั้ง มีประชาชนมีลงทะเบียน18.8 ล้านคน ผ่านคุณสมบัติ 14.6 ล้านคน ล่าสุด ณ เดือนส.ค.นี้ มีผู้ถือบัตรคนจน 13.3 ล้านคน

สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นของคนที่จะได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยังคงเหมือนเดิม เช่น เป็นคนสัญชาติไทย ,อายุ 18 ปีขึ้นไป ,มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1 แสนบาท ,มีทรัพย์สินทางการเงิน เช่น เงินฝากในธนาคารหรือพันธบัตรรัฐบาล ไม่เกิน 1 แสนบาท กรณีเป็นเจ้าของบ้านเดี่ยว ทาวเฮาส์ ห้องแถว ตึกแถว ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา กรณีเป็นห้องชุดต้องไม่เกิน 35 ตารางเมตร เป็นต้น

ความแตกต่างในการลงทะเบียนเพื่อรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในครั้งนี้ คือ จะนำรายได้ของครอบครัวมาร่วมพิจารณาด้วย เช่น กรณี ครอบครัว ที่มีพ่อ แม่ และลูกที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี รวม 3 คน พ่อ และแม่ จะต้องผ่านเกณฑ์การได้รับบัตรสวัสดิการดังกล่าวข้างต้น แล้วยังต้องนำรายได้ทั้งครอบครัวมารวมกัน แล้วหารสาม หากรายได้ครอบครัวเฉลี่ยไม่เกิน 1 แสนบาท ถือว่าผ่านเกณฑ์ได้รับบัตรสวัสดิการ

นอกจากนี้ ยังมีเกณฑ์ อื่นๆ ที่ใช้เพื่อกลั่นกรองคุณสมบัติของผู้สมควรได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช่น จะต้องไม่เป็นผู้ที่มีบัตรเครดิต,ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ , ไม่มีประวัติการซื้อขายหุ้น , มีวงเงินกู้ซื้อบ้านไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และมีวงเงินกู้เพื่อซื้อยานพาหนะ ไม่เกิน 1 ล้านบาทและไม่มีประวัติการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น  ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิ์ จะต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตนักบวช ผู้ต้องกักขัง ,ข้าราชการ หรือพนักงานราชการ