TNP คงประมาณการกำไรปี 65 ที่ 168 ลบ. –12%YoY คาดผลประกอบการ 2H65 ฟื้นโตดีจาก 1H65

TNP คงประมาณการกำไรปี 65 ที่ 168 ลบ. –12%YoY คาดผลประกอบการ 2H65 ฟื้นโตดีจาก 1H65

กำไรงวด 2Q65 เท่ากับ 34.25 ลบ. -22%YoY -4%QoQ เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่คาด: บริษัทรายงานรายได้งวด 2Q65 เท่ากับ 579.1 ลบ. -4%YoY -2%QoQ  และ SSSG -12.3%YoY ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับที่คาด

เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง หลังจากภาครัฐปรับลดมาตรการกระตุ้นค่าใช้จ่ายของประชาชน โดยช่วง 2Q64 วงเงินเฉลี่ย 2,000 บาท/คน เทียบกับรอบวันที่ 1 ก.พ.-30 เม.ย. 65 (คาบเกี่ยวช่วง 1Q-2Q65) วงเงินเฉลี่ย 1,200 บาท/คน (Table 1) ส่วน %GPM ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 17.39% (2Q64 = 17.89%, 1Q65 = 17.05%) ส่งผลให้งวด 2Q65 มีกำไรเท่ากับ 34.25 ลบ. -22%YoY -4%QoQ โดยกำไร 1H65 เท่ากับ 70 ลบ. -30%YoY คิดเป็น 42% ของประมาณการทั้งปี 65 ที่ 168 ลบ.

 

•    คงประมาณการกำไรปี 65 ที่ 168 ลบ. -12%YoY เราคงประมาณการรายได้และกำไรปี 65 ที่ 2,406 ลบ. -8%YoY และ 168 ลบ. -12%YoY ตามลำดับ โดยรายได้และกำไรงวดช่วง 1H65 เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่คาด ขณะที่ช่วงครึ่งหลังปี 65 เราคาดจะเติบโตดี HoH โดยมีปัจจัยหนุน คือ 1) ขยายสาขาใหม่อีก 4 สาขา สู่ 44 สาขา ณ สิ้นปี 65 (Figure 2) 
2) มาตรการคนละครึ่งเฟส 5 มีวงเงินสนับสนุน 800 บาท/คน เริ่มใช้จ่าย 1 ก.ย.65 และ 3) ฐานต่ำในช่วง 1H65 ประกอบกับ 2H65 เป็นช่วง High Season ขณะที่ สมมติฐาน %GPM เราคงคาดที่ระดับ 17.4% และ %SG&A ที่ระดับ 9.5% ตามลำดับ ทั้งนี้ ประมาณการกำไรปี 65 ยังไม่รวมอัพไซต์หากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วง 4Q65
 

 

 

 

 

•    คงคำแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 5.80 บาท เราคงราคาเป้าหมายปี 65 ของ TNP ที่ 5.80 บาท โดยอิง Prospective PER ที่ระดับเดิม 27.5x ซึ่งยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมค้าปลีกที่ระดับ 32.5x ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PER ระดับ 19.8x ถูกที่สุดในกลุ่ม โดยราคาเป้าหมายยังคงมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบัน ส่งผลให้เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”

 

ปัจจัยเสี่ยง

i) แนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในอุตสาหกรรมค้าปลีก
ii) แผนการขยายสาขาไม่เป็นไปตามเป้า
iii) การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมเริ่มชะลอลง
iv) ภาครัฐหยุดกระตุ้นเศรษฐกิจ