‘สุดาวรรณ’ งัดแทคติกเบ่ง ‘ชาร์เตอร์ไฟลต์’ ดันยอดต่างชาติเที่ยวไทย 40 ล้านคน

‘สุดาวรรณ’ งัดแทคติกเบ่ง ‘ชาร์เตอร์ไฟลต์’ ดันยอดต่างชาติเที่ยวไทย 40 ล้านคน

‘สุดาวรรณ’ รมว.การท่องเที่ยวฯ เผยเตรียมถกร่วม ‘ททท.’ ดันแผนกระตุ้นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หรือ ‘ชาร์เตอร์ไฟลต์’ จากจีน เกาหลีใต้ รัสเซีย และยุโรป เบ่งยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไปถึงเป้าหมาย 40 ล้านคนของนายกฯ ‘เศรษฐา’

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตั้งเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย 40 ล้านคนในปี 2567 หนุนสร้างรายได้รวมการท่องเที่ยวจากทั้งตลาดในและต่างประเทศ 3.5 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายการทำงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 35 ล้านคน สร้างรายได้รวมการท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาทนั้น ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท. กำลังวางแทคติกทางการตลาดร่วมกันว่าต้องใช้วิธีใดบ้าง เช่น การกระตุ้นตลาดด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) เป็นต้น เพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ ให้ได้ตัวเลขตามเป้าหมายของนายกฯ

วันนี้ (19 ก.พ.) กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะประชุมร่วมกับ ททท. เพื่อขอติดตามแผนงานกระตุ้นตลาดดึงชาร์เตอร์ไฟลต์จากตลาดเป้าหมายทั้งระยะใกล้และระยะไกลเข้ามาเพิ่ม ได้แก่ รัสเซีย กลุ่มสแกนดิเนเวีย กลุ่มประเทศซีไอเอส (CIS) ยุโรปจากบางพื้นที่ เกาหลีใต้ รวมไปถึงจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสฟื้นตัวมากที่สุด แม้เศรษฐกิจจีนจะกำลังเผชิญภาวะเงินฝืด แต่ด้วยขนาดตลาดที่ใหญ่ มีกลุ่มที่พร้อมออกเดินทาง การเร่งขยายชาร์เตอร์ไฟลต์สู่เมืองรองของจีน ก็จะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยให้ไปถึงเป้าหมาย 8 ล้านคนในปีนี้ได้

โดยเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด ถือเป็นปีที่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยจำนวนกว่า 11 ล้านคน พบว่าโครงสร้างตลาดจีนเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) 40% และนักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ 60% ซึ่งเดินทางด้วยชาร์เตอร์ไฟลต์กว่า 25-30%

“การกระตุ้นตลาดชาร์เตอร์ไฟลต์ถือเป็นแทคติกที่มีความสำคัญมาก เพราะสามารถดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติจากเมืองรองที่ยังไม่มีเที่ยวบินประจำ ให้สามารถเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ โดยเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางด้วยชาร์เตอร์ไฟลต์ครองสัดส่วน 17-20% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 40 ล้านคน แต่เมื่อปี 2566 มีสัดส่วนเหลือเพียง 3% เท่านั้น จำเป็นต้องเร่งเบ่งตลาดชาร์เตอร์ไฟลต์ให้ได้ 15% ในปีนี้”

‘สุดาวรรณ’ งัดแทคติกเบ่ง ‘ชาร์เตอร์ไฟลต์’ ดันยอดต่างชาติเที่ยวไทย 40 ล้านคน

นอกจากนี้ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท. จะมีการแบ่งโจทย์ให้แก่สำนักงาน ททท.ที่รับผิดชอบตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีจำนวนคนเดินทางเข้าไทยสูงสุด 10 อันดับแรก ว่าแต่ละตลาดจะต้องสร้างการเติบโต 2 หลัก หรือไม่น้อยกว่า 10% ในปีนี้ เช่น ตลาดรัสเซีย ต้องเบ่งการเติบโตให้ได้ 10-15%

แน่นอนว่าด้วยแทคติกและกลยุทธ์ทั้งหมดนี้มีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการกระตุ้นตลาดเพิ่ม นอกเหนือจากการได้ปัจจัยสนับสนุนเรื่องนโยบายการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าของรัฐบาล ที่รัฐบาลไทย-จีนได้ลงนามความตกลงยกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) ระหว่างกัน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2567 เป็นต้นไป ขณะที่ตลาดเป้าหมายอื่นๆ อย่างเช่น คาซัคสถาน ก็มีโอกาสต่ออายุมาตรการวีซ่าฟรีให้ จากเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 29 ก.พ. 2567 รวมไปถึงรัสเซีย ก็มีแนวโน้มต่ออายุมาตรการขยายเวลาพำนักวีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยวรัสเซียจาก 30 วัน เป็นสูงสุดไม่เกิน 90 วัน จากเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย. 2567