ความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับกลยุทธ์ธุรกิจ

เริ่มมีการทดลองนำ AI มาใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ของธุรกิจกันมากขึ้น เช่น มีการให้ AI เขียนแผนธุรกิจให้กับบริษัทสมมติ ซึ่งผลที่ออกมาก็อยู่ในระดับที่ใช้ได้ สามารถเป็นจุดเริ่มต้นให้กับเจ้าของบริษัทได้ แต่ยังไม่ถึงขั้นดีเยี่ยมที่จะสามารถนำไปใช้ได้เลย

นอกจากนี้ยังมีการทดลองสอบถาม AI ให้เสนอไอเดียสำหรับธุรกิจเพื่อที่จะ Disrupt ธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ออกมาอยู่ในระดับที่ดี ข้อเสนอของ AI สอดคล้องกับเกิดขึ้นจากการระดมสมองของผู้บริหารระดับสูง และ AI ยังนำเสนอโมเดลธุรกิจ รวมทั้งต้นทุนของธุรกิจใหม่ด้วย

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ AI นำเสนอนั้น ไม่ได้แตกต่าง หรือฉีกไปจากสิ่งที่ผู้บริหารคิดขึ้นมา เพียงแต่ผลที่ได้ออกมานั้นรวดเร็วกว่าและใช้ความพยายามน้อยกว่าให้ผู้บริหารคิดเอง

ความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับกลยุทธ์นั้นจะเป็นไปในสองมิติ โดยมิติแรก AI จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการจัดทำหรือวางแผนกลยุทธ์ และมิติที่สอง AI จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่บริษัทจะเลือกใช้

ภายใต้มิติแรก การวางแผนหรือจัดทำกลยุทธ์นั้น จะต้องผ่านกระบวนการในการนำข้อมูลต่างๆ มาใช้และวิเคราะห์ เพื่อแสวงหาโอกาสและข้อจำกัดทางธุรกิจ และเมื่อใดก็ตามที่มีข้อมูลจำนวนมากแล้ว AI ก็สามารถเข้ามามีประโยชน์และช่วยเหลือได้

บริษัทสามารถนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งภายนอกและภายในบริษัท เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ AI จะช่วยในการหารูปแบบและแนวโน้มต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากปริมาณข้อมูลที่มีอยู่อย่างมาก ก็อาจจะหลบรอดจากสายตาของผู้บริหารไปได้

 

หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลเสร็จ AI ยังสามารถช่วยระบุถึงปัญหา ความท้าทายที่บริษัทต้องเผชิญ และหลังจากนั้น AI ก็สามารถช่วยในการสร้างทางเลือกต่างๆ ขึ้นมาจากข้อมูลที่มีอยู่ และสามารถออกมาเป็น Scenario หรือฉากทัศน์ที่หลากหลาย พรัอมทั้งให้ข้อดี ข้อเสียของแต่ละทางเลือก

ภายใต้มิติแรกของ AI กับกลยุทธ์นั้น บทบาทของ AI จะเป็นผู้ช่วยในการวิเคราะห์ กำหนดประเด็น และหาทางเลือกทางกลยุทธ์ ซึ่ง AI จะมีประโยชน์ในขั้นนี้มากถ้าบริษัทมีข้อมูลที่เพียงพอ และรู้จักที่ตั้งคำถามที่จะถาม AI

สำหรับมิติที่สองนั้น AI จะเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์บริษัท ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การเติบโต หรือการแข่งขัน หรือการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ธุรกิจสามารถเลือกที่จะนำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ได้ในหลากหลายวิธี ตั้งแต่

1.การสร้างธุรกิจใหม่ ที่มุ่งเน้นในด้าน AI หรือการเข้าไปลงทุนในบริษัททางด้าน AI

2.การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มี AI เป็นองค์ประกอบและเป็นการเพิ่มคุณค่าและความแตกต่าง เช่น โทรศัพท์มือถือที่มี AI

3.การสร้างบริการรูปแบบใหม่ หรือยกระดับบริการแบบเดิม โดยนำ AI เข้ามาช่วยเสริมสร้างคุณค่าและประสบการณ์ที่ดีขึ้น เช่น ค้าปลีกสามารถนำ AI มาช่วยในการสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าที่มีความเป็นส่วนบุคคล หรือ Personalized Shopping Experience ได้มากขึ้น

4.การสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ โดยมี AI เป็นพื้นฐาน เช่น โมเดลธุรกิจใหม่ที่เป็น Dynamic Pricing หรือการปรับเปลี่ยนราคาตามอุปสงค์ โดยมี AI มาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล

5.การยกระดับกระบวนการและกิจกรรมหลักของบริษัท โดยนำ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความเร็ว และลดต้นทุน

ภายใต้มิติที่สองนั้น AI จะเป็นทางเลือกหนึ่งของกลยุทธ์ที่ผู้บริหารจะต้องตัดสินใจว่าจะมุ่งไปสู่หรือไม่

สรุปได้ว่า ถ้ารู้จักที่จะนำมาใช้แล้ว AI ย่อมเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ แต่ก็ต้องอย่าหวังพึ่ง AI จนเกินไป โดยเฉพาะในด้านกลยุทธ์นั้น AI ไม่สามารถที่จะเลือกและตัดสินใจในกลยุทธ์ที่เหมาะสมแทนผู้บริหารได้ เพียงแต่ AI จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ หาทางเลือก รวมทั้งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในกลยุทธ์ของบริษัทเท่านั้น.