ค้าปลีกโลคอล ชี้กำลังซื้อปีมังกรทรุด หวังรัฐเร่งปลุกเศรษฐกิจต่างจังหวัด

ค้าปลีกโลคอล ชี้กำลังซื้อปีมังกรทรุด หวังรัฐเร่งปลุกเศรษฐกิจต่างจังหวัด

สำรวจค้าปลีกต่างจังหวัดปีมังกร กำลังซื้อหดตัว บิ๊กโลคอลค้าปลีก หวังภาครัฐอัดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนแจกเงินดิจิทัล 'สมาคมค้าส่ง – ปลีกไทย' พร้อมผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่งในต่างจังหวัด ผุด 'โลคอล โลคอสต์' รวม 4 ครั้ง หวังกระตุ้นตลาด ดึงกำลังซื้อฟื้น

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้ออกมาประเมินถึง ตลาดรวมค้าปลีกไทยปี 2567 มีมูลค่ารวมประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท มีการขยายตัว 3-5% ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีก ระยะ 3 เดือนจากนี้ (ม.ค.-มี.ค.67) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.3 จุด มาจากความไม่ชัดเจนในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐโดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต, การอนุมัติงบประมาณประจำปี 2567 ที่อาจล่าช้า ส่งผลให้หลายโครงการของภาครัฐ เช่น ภาคท่องเที่ยว อาจต้องชะลอหรือเลื่อนการดำเนินงานออกไป

ส่วนเดือน ธ.ค.ปีก่อน เพิ่มขึ้น 9.5 จุด มาจากการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายของร้านค้าในช่วงเฉลิมฉลองปลายปี โดยมีปัจจัยที่กระทบตลาดทั้ง อาทิ กำลังซื้อซบเซา หนี้ครัวเรือน ราคาพลังงานและสาธารณูปโภคที่สูงอยู่ ทั้งหมด สะท้อนถึงตลาดค้าปลีกและบริการในปีนี้ แม้จะมีทิศทางที่เติบโตขึ้น แต่ก็มีหลายปัจจัยต้องติดตาม และกระทบตลาดทั้งหมด สอดคล้องกับ ภาพรวมค้าปลีกในโลคอล ที่ยังคงชะลอตัวอยู่เช่นกัน 

นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ผู้บริหาร ตั้งงี่สุน จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ภาพรวมตลาดค้าปลีกต่างจังหวัดในปี 2567 อยู่ในภาวะทรงตัว และมีการขยายตัวที่ดีในช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่เท่านั้น หลังจากนั้นสินค้าหลากหลายกลุ่มมียอดขายหดตัว ไปจนถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่คึกคักเมื่อเทียบกับปีก่อน มาจากตลาดฐานล่างของประเทศยังมีกำลังซื้อที่ไม่ดี จากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง สอดรับกับเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัว

 

 

 

“จากการสอบถามผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่งหลายรายในตลาดต่างจังหวัด พบว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้อยู่ในภาวะที่แย่ และยังไม่ผงกหัว แม้ว่ารัฐบาลจะมีการประกาศนโยบายขึ้นค่าแรงแล้ว แต่เป็นการขึ้นในระดับที่เล็กน้อย รวมถึงนโยบายดึงการลงทุนจากต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย ประเมินว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควรว่าจะมีการลงทุนใหม่จากต่างชาติเข้ามา ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เร็ว”

ทั้งนี้ผู้ประกอบการในต่างจังหวัดอยากให้รัฐบาล เร่งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน ทั้งนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท รวมถึงนโยบายอื่นๆ ที่ประกาศว่าจะผลักดันในช่วงก่อนหน้านี้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจในต่างจังหวัดกลับมาขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ตลอดปีมังกรนี้

 

ขณะเดียวกัน อีกเรื่องที่อยากเสนอต่อภาครัฐบาล คือการหาแนวทางดึงภาคเอกชนที่มีความสามารถไปร่วมวางแผนนโยบายเศรษฐกิจให้ตรงจุดมากขึ้น และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ชอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ให้เกิดขึ้นได้เป็นผลสำเร็จ เพื่อร่วมดึงดูดการท่องเที่ยว และสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโต

ทั้งนี้ สมาคมค้าส่ง – ปลีกไทย พร้อมด้วยเอกชนกลุ่มค้าปลีก-ค้าส่งในตลาดต่างจังหวัดรวม 88 ราย ได้ผนึกกำลัง จัดทำโครงการ “โลคอล โลคอสต์” (Local Low Cost) ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง โดยมีพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตสินค้า ซัพพลายเออร์รายใหญ่ มาร่วมทำโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษ วางแผนจัดรวม 4 ครั้งใน 4 ไตรมาสตลอดปี 2567 โดยไตรมาสแรก จัดในเดือน ก.พ. นี้ ไตรมาสสอง เดือน พ.ค. ไตรมาสสาม เดือน ส.ค.และไตรมาสที่สี่ เดือน พ.ย. เพื่อร่วมกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค และผลักดันให้ค้าปลีกในต่างจังหวัดเติบโตมากขึ้น

สำหรับโครงการ “โลคอล โลคอสต์” เป็นการจัดต่อเนื่องจากปี 2566 ที่ได้จัดรวม 2 ครั้ง โดยมีผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่งรวม 52 ร้านค้ามาร่วมโครงการ เพื่อร่วมลดค่าครองชีพให้แก่คนไทย ซึ่งได้ผลการตอบรับที่ดีมาก ทำให้ในปีนี้ได้จัดต่อเนื่อง

“ท่ามกลางเศรษฐกิจในปีนี้ที่ไม่สดใส แต่อีกสัญญาณบวกที่เห็นคือ เอกชนค้าปลีกรายใหญ่ของประเทศ ยังเดินหน้าขยายสาขาใหม่ไปในหลากหลายทำเลอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงโอกาสในตลาดค้าปลีกที่มีอยู่ ยังมีกลุ่มที่มีกำลังซื้อ โดยผู้ประกอบการในตลาดต่างจังหวัดก็ต้องพร้อมปรับตัว ให้สอดรับกับสถานการณ์ต่างๆ และหาแผนสร้างธุรกิจให้เติบโตดีต่อเนื่อง”