ททท. จ่อหารือรัฐบาลขยาย ‘วีซ่าฟรี’ ต่างชาติตลาดเป้าหมายอื่นๆ ถึงสิ้นปี 67

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพบสัญญานการหนีร้อนมาพึ่งเย็นของนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล ทั้งจากยุโรป สแกนดิเนเวีย และอเมริกา หลังจากโลกเกิดคลื่นความร้อน ทำให้นักท่องเที่ยวระยะไกล พาครอบครัวมาพักผ่อนเมืองไทย เห็นได้ชัดเจนว่ายอดของนักท่องเที่ยวระยะไกลเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยยะสำคัญ ในช่วงซัมเมอร์ซึ่งตรงกับการปิดภาคเรียน ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ส.ค.

ททท.จึงเตรียมหารือกับรัฐบาล เพื่อหามาตรการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ กระตุ้นการท่องเที่ยวโดยการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยในปี 2567 เพื่อกระตุ้นเป้าหมายรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่รัฐบาลตั้งไว้ 2.3 ล้านล้านบาท จากเดิมตามแผนงาน ททท. ตั้งไว้ 1.92 ล้านล้านบาท จึงจำเป็นต้องขอให้รัฐบาลขยายอายุมาตรการยกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) ให้นักท่องเที่ยวตลาดเป้าหมายเพิ่ม ไปจนถึงสิ้นปี 2567

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตามเป้าหมายของนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายของรัฐบาลในปี 2567 มุ่งสร้างรายได้รวมการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท โดยเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 2.3 ล้านล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตั้งเป้าไว้ 40 ล้านคน

ทาง รมว.การท่องเที่ยวฯ คงจะเน้นย้ำไปที่ ททท. เป็นหลักเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณ ให้ชะลอการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่มาเน้นการจัดทำโปรโมชันร่วม (Joint Promotion) กับภาคเอกชน สนับสนุนการทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) โดยให้ผู้ประกอบการจ่าย 60% และภาครัฐอุดหนุนอีก 40% ซึ่งถือเป็นการทำการตลาดและขายโดยตรงเพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และต้องทำให้ทันตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 เดินทางในช่วงเดือน พ.ย.-มี.ค. ซึ่งจะสร้างอิมแพ็คมากที่สุดในกลุ่มตลาดเมืองหนาว ทั้งรัสเซีย คาซัคสถาน และเกาหลีใต้

“การจัดทำชาร์เตอร์ไฟลต์บินเข้าไทยในปี 2566 ที่ผ่านมา ยังทำไม่ทัน เนื่องจากติดปัญหาเรื่องงบประมาณที่มาไม่ทันช่วงไฮซีซันของหลายๆ ตลาด เช่น รัสเซีย และเกาหลีใต้ ทำให้มีชาร์เตอร์ไฟลต์เข้าไทยน้อยเกินไปจากที่ควรจะเป็น ทำให้ในปี 2567 จะจัดทำชาร์เตอร์ไฟลต์เข้าไปเจาะเมืองที่ไม่มีเที่ยวบินตรงเข้าไทย เช่น ในรัสเซีย และคาซัคสถาน ซึ่งเป็นตลาดที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการวีซ่าฟรี”

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า “ถ้าทำชาร์เตอร์ไฟลต์ทันช่วงปลายปี 2566 จะทำให้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากทั้งตลาดจีน รัสเซีย และคาซัคสถาน มาเติมได้อีก 1.5 ล้านคน แต่เพราะความล่าช้าของงบประมาณปี 2567 ทำให้ขาดโอกาสนี้ไป”

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าตลอดปี 2567 นักท่องเที่ยวชาติ 5 อันดับแรกที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด อันดับ 1 น่าจะเป็น จีน  ด้วยจำนวน 8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 3.5 ล้านคนของปีก่อน ส่วนอันดับ 2 คือ มาเลเซีย 5.5-6 ล้านคน เพิ่มจาก 4.5 ล้านคนของปีก่อน อันดับ 3 อินเดีย คาดได้ 2.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 1.6 ล้านคนของปีก่อน ซึ่งขึ้นกับจำนวนเที่ยวบินเป็นสำคัญ อันดับ 4 รัสเซีย คาดได้ 2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 1.48 ล้านคนของปีก่อน หากทำการตลาดดีๆ ด้วยการเพิ่มชาร์เตอร์ไฟลต์ หลังระหว่างไทยกับรัสเซียได้ยกเว้นวีซ่าระหว่างกันอยู่แล้ว และอันดับ 5 เกาหลีใต้ คาดได้ 2 ล้านคน เพิ่มจาก 1.65 ล้านคนของปีก่อน