‘ซีจีแคปปิตอล’ ลุยซื้ออสังหา-โรงแรม รับศักยภาพท่องเที่ยวไทยดัน IRR 18%

‘ซีจีแคปปิตอล’ ลุยซื้ออสังหา-โรงแรม รับศักยภาพท่องเที่ยวไทยดัน IRR 18%

เปิดแผน “ซีจี แคปปิตอล” นิวเจนจิราธิวัฒน์ ผนึกพันธมิตรนักลงทุนสถาบัน ลุยขยายพอร์ตบริหารการลงทุน "Private Equity" ประเดิมกองแรกมูลค่า 1 หมื่นล้าน มุ่งธุรกิจ โรงแรม คอนโด สวนสนุก สวนน้ำ มิกซ์ยูส เมืองท่องเที่ยว ชูผลตอบแทนเบื้องต้น 18% ต่อปี

ย้ำศักยภาพท่องเที่ยวไทยจุดหมายปลายทางระดับโลกหนุนเติบโต

ตระกูลจิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งอาณาจักรค้าปลีก “เซ็นทรัล” ดำเนินธุรกิจมายาวนานในประเทศไทยร่วม 80 ปี ครอบคลุมธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ฯลฯ ปัจจุบัน 3 กลุ่มธุรกิจหลักเรือธง บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) รวมกว่า 6 แสนล้านบาท ภายใต้การขับเคลื่อนของคนเจนเนอเรชั่น 3 และ 4 นับร้อยชีวิต 

อย่างไรก็ตาม ในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจยุคใหม่ที่มีโอกาสใหม่ๆ เป็น “ทางเลือก” โดยล่าสุดหนึ่งในผู้บริหาร “เจน 3” ของตระกูลจิราธิวัฒน์ “ภูมิ จิราธิวัฒน์” เปิดก้าวรุกธุรกิจใหม่ในฐานะผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท ซีจี แคปปิตอล (CG Capital) จำกัด ดำเนินธุรกิจบริการการลงทุนในรูปแบบ Private Equity พร้อมด้วย นายสรวิศ ชัยโรจน์ ผู้ก่อตั้ง คูน เอสเตท ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ร่วมเป็นผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร ซีจี แคปปิตอล  ประเดิมด้วย Private Equity กองทุนแรก 10,000 ล้านบาท มีผู้ร่วมลงทุนประกอบด้วย 1.ตระกูลจิราธิวัฒน์ 2.สถาบันการเงิน และ 3. นักลงทุนชั้นนำในโลก

นายภูมิ จิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท ซีจี แคปปิตอล (CG Capital) จำกัด กล่าวว่า ศักยภาพและโอกาสการลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทยมีสูง ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติเยือนไทย 28 ล้านคน และจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงมองเป็นโอกาสต่อยอดธุรกิจในครั้งนี้

‘ซีจีแคปปิตอล’ ลุยซื้ออสังหา-โรงแรม รับศักยภาพท่องเที่ยวไทยดัน IRR 18%

Private Equity กองทุนแรก วางนโยบายลงทุนในโรงแรม คอนโดมิเนียม สวนสนุก สวนน้ำ และมิกซ์ยูส มุ่งเมืองท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย และพัทยา วางแผนลงทุน 3-5 โครงการต่อปี แต่ละโครงการจะเข้าไปลงทุนระยะยาว 5-6 ปี ประเมินว่า นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ (IRR) 18% ต่อปี 

“กองทุน Private Equity ในทั่วโลกส่วนใหญ่จะให้ผลตอบแทนในระดับ 18% โดยการเข้าไปลงทุน จะเป็นการร่วมสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจต่างๆ ส่วนในอนาคตจะมีการการขายความเป็นเจ้าของ (Exit) ในรูปแบบใด ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในเรื่องนี้”

ปักหมุดภูเก็ตท่องเที่ยวไทยแข็งแกร่ง

ในปี 2567 บริษัทฯ เปิดตัวโครงการลงทุนแรก คือ โครงการที่พักอาศัย Branded residences ภายใต้โรงแรมบูทีคไลฟ์สไตล์ระดับโลกทั้ง เดอะสแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ ภูเก็ต บางเทา เป็นคอนโดมิเนียม และ เดอะ เภรี โฮเต็ล ภูเก็ต บางเทา เป็นโรงแรมในเครือแบรนด์ สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล มีทำเลสำคัญในย่าน เชิงทะเล-บางเทา นับเป็นทำเลที่ดีสุดแห่งหนึ่งในภูเก็ต ร่วมดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก

โดยบริษัทฯ และตระกูลจิราธิวัฒน์ ได้ลงทุนในโครงการนี้ พื้นที่ 40 ไร่ เฟสแรกใช้พื้นที่ 12 ไร่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 5,000 ล้านบาท จะเปิดตัวในเดือน เม.ย.2567 คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2569 สำหรับแบรนด์เดอะสแตนดาร์ด มี บริษัท แสนสิริ เป็นเจ้าของแบรนด์ และเป็นผู้บริหารโครงการ

“ภูเก็ต มีศักยภาพสูง เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เทียบเท่า สิงคโปร์ แต่มีการลงทุนน้อยกว่า มีทิศทางขยายตัวที่ดีในระยะยาว ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เปรียบเสมือน ทองหล่อ ของ กรุงเทพฯ”

ส่วนตลาดโรงแรมไทยเติบโตดีเช่นกัน ข้อมูลตลาดซื้อขายโรงแรมในประเทศไทยจากนักลงทุนทั่วโลกในแต่ละปี มูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท แต่มีช่วงที่ลดลงในปีก่อน วงเงินลงทุน 4,000 ล้านบาท จึงประเมินว่าตลาดซื้อขายโรงแรมไทยมีโอกาสดึงดูดลงทุนใหม่

‘ซีจีแคปปิตอล’ ลุยซื้ออสังหา-โรงแรม รับศักยภาพท่องเที่ยวไทยดัน IRR 18%

ภูมิ จิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท ซีจี แคปปิตอล (CG Capital)

การลงทุนไม่ขัดธุรกิจกลุ่มเซ็นทรัล

นายภูมิ ย้ำถึงข้อสงสัยในการเปิดบริษัทใหม่ ซีจี แคปปิตอล มีผลเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัลหรือไม่นั้นว่า ซีจี แคปปิตอล เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจการบริหารการลงทุนในรูปแบบ Private Equity มีความเป็นอิสระจาก เซ็นทรัล กรุ๊ป ทั้ง เซ็นทรัลพัฒนา ที่เน้นลงทุนในศูนย์การค้าและโครงการมิกซ์ยูส เซ็นทรัล รีเทล ที่เน้นโครงการรีเทลทั้งที่อยู่ในและนอกเซ็นทรัลพัฒนา และโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา ซึ่งรายได้มาจากการบริหารโรงแรม

"ซีจี แคปปิตอล จึงมีความแตกต่างจากธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล พร้อมเปิดให้นักลงทุนในและต่างประเทศเข้ามาร่วมลงทุนได้ ขณะที่นักลงทุนในกองทุนแรก มีประมาณ 10 คน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นการลงทุนส่วนบุคคล"

สำหรับการเปิดบริษัทใหม่นี้ทางตระกูลจิราธิวัฒน์ ได้เน้นย้ำถึง การลงทุนใหม่ที่ต้องมีความระมัดระวังเสมอ (conservative) ถือเป็นดีเอ็นเอของจิราธิวัฒน์ พร้อมมุ่งดูแลต้นทุนให้ดีที่สุด เพื่อให้พร้อมรับมือทุกวิกฤติและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ แต่ท่ามกลางความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจและกำลังซื้อซบเซา การมองโอกาสลงทุนใหม่ๆ โดยเฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพ ยังเป็นโอกาสที่ดีเสมอ

อย่างไรก็ตาม บทบาทการทำงานนับจากนี้ ของ ภูมิ จิราธิวัฒน์ จะมีทั้งใน ซีจี แคปปิตอล และในฐานะ Head of Hotels and Alternative Investments ของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ควบคู่กัน 

‘ซีจีแคปปิตอล’ ลุยซื้ออสังหา-โรงแรม รับศักยภาพท่องเที่ยวไทยดัน IRR 18%

สรวิศ ชัยโรจน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท ซีจี แคปปิตอล

พร้อมดึงดูดผู้บริหารเข้ามาลงทุน

นายสรวิศ ชัยโรจน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท ซีจี แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า ซีจี แคปปติตอล พร้อมดึงดูดพันธมิตรนักลงทุนและผู้บริหาร เข้ามาร่วมลงทุน และสร้างโอกาสใหม่ โดยรูปแบบการบริหารกองทุนมีความยืดหยุ่นตามความเหมาะสมของสถานการณ์ต่างๆ แนวคิดของบริษัทไม่ได้เชื่อในการลงทุนถูกและขายแพง แต่เชื่อในแนวทางการเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมพัฒนา เพื่อร่วมสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว ขณะที่สัดส่วนการลงทุน จะมาจากนักลงทุนจากในประเทศ 50% และต่างประเทศ 50%

สำหรับการลงทุนในระยะแรก ต้องการเน้นลงทุนในไทย เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว แต่สามารถปรับยืดหยุ่นลงทุนในตลาดโลกได้

2 ผู้บริหารเชี่ยวชาญลงทุน Private Equity

สำหรับ นายภูมิ จิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหารกองทุน ซีจี แคปปิตอล มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ การลงทุน การพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ Private Equity ในประเทศไทยและอาเซียนมากกว่า 10 ปี  ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง Head of Hotels and Alternative Investments บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าขนาดใหญ่ มากกว่า 40 แห่ง ทั่วประเทศ รวมถึงมีบทบาทลงทุนธุรกิจโรงแรม การลงทุนใน Data Center และ Venture Capital

ก่อนรับตำแหน่งที่ เซ็นทรัลพัฒนา เคยดำรงตำแหน่ง VP ที่ L Catterton บริษัทในกลุ่ม LVMH ดูแล บริหารกองทุน Consumer Private Equity มูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์

ขณะที่ นายสรวิศ ชัยโรจน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์การลงทุนในธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และ Private Equity มากกว่า 20 ปี รวมถึงการลงทุนในกิจการโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ ในประเทศไทยและในอาเซียนมากกว่า 30 แห่ง

ขณะเดียวกันเป็นผู้ก่อตั้ง คูน เอสเตท ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีผลงานที่โดดเด่นทั้ง โรงแรมคิมป์ตัน คีตาเล สมุย โครงการบ้านหรูไฮด์พาร์คการ์เด้น คอนโดคูเปอร์สยาม และโครงการคลัสเตอร์โฮม บ้านหรูใจกลางสุขุมวิทอย่าง ควอเตอร์คอลเลคชั่น ที่ผ่านมา มีบทบาทสำคัญที่ Lehman Brothers ดูแลบริหารพอร์ตการลงทุนมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ทั่วภูมิภาคเอเชีย

‘ซีจีแคปปิตอล’ ลุยซื้ออสังหา-โรงแรม รับศักยภาพท่องเที่ยวไทยดัน IRR 18%