แฉยับ พริตตี้สาวรถหรู แจ้งจับคลินิกดังย่านปากเกร็ด ศัลยกรรมจนแผลเน่า

แฉยับ พริตตี้สาวรถหรู แจ้งจับคลินิกดังย่านปากเกร็ด ศัลยกรรมจนแผลเน่า

2 พริตตี้สาว เปิดโปงแฉยับแจ้งตำรวจ เอาผิดจับคลินิกศัลยกรรม ย่านปากเกร็ด ไร้ความรับผิดชอบ หลังการผ่าตัดเปิดหน้าผาก ทำจมูก เสริมดวง กลายเป็นแผลเน่า ต้องเสียเงินไปกับการรักษา สูญโอกาสสร้างรายได้

ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือ “จ่าคิงส์ แตงทิม” อดีตสารวัตรทหารอากาศ (สห.ทอ.) พาผู้เสียหาย 2 ราย คือ น.ส.แยม (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี พริตตี้, พิธีกรอาชีพ (MC ในงานแสดงรถหรู) และ น.ส.บี (นามมสมมติ) อายุ 26 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง 

ร่วมเดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณัฐดนัย ดำรงค์ศิลป์ สว.กก.3.บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี คลินิกชื่อดัง ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ในความไม่รับผิดชอบ หลังแผลที่หน้าผาก - จมูก ที่เข้ารับทำศัลยกรรมหน้าผาก เกิดอาการติดเชื้อจนหน้าผากเน่า - จมูกผิดรูป

น.ส.แยม เปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นปี ตนเห็นโฆษณาคลินิกดังกล่าวจากเฟซบุ๊ก มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ในวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา จึงเข้ารับผ่าตัดเปิดหน้าผากเสริมดวง ราคารวมทั้งสิ้น 60,000 บาท หลังการผ่าตัด เกิดภาวะแผลติดเชื้อทั่วหน้าผาก จึงมีการสอบถาม แต่แพทย์ในคลีนิค อ้างว่าเกิดจากอาการแพ้ ผ้าพันแผล พร้อมอ้างว่าจะช่วยรักษาให้ แต่ก็นิ่งเฉย

น.ส.แยม ระบุอีกว่า ตนจึงไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่ง ซึ่งได้รับการยืนยันผลตรวจจากแพทย์ผิวหนังว่า เป็นแผลเน่า เพราะภาวะเนื้อตายต้องรักษาด้วยการฉีดเลเซอร์เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ตนจึงติดต่อขอให้ทางคลินิกรับผิดชอบ ซึ่งก็จ่ายเงินเยียวยามาให้เพียงแค่ 15,000 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่คุ้มกับค่ารักษา เพราะทราบว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอีกไม่ต่ำกว่าล้านบาท

บาดแผลที่หน้าผากมาก ทำให้หนูต้องสูญเสียรายได้ตลอดปี ไม่ต่ำกว่าแสน หนูเห็นว่าแพทย์และคลินิกควรออกมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ไม่ใช่มาปัดความรับผิดชอบเช่นนี้ พริตตี้สาว กล่าว

ส่วน น.ส.บี เปิดเผยว่า เมื่อต้นปี มีการทำศัลยกรรมจมูก ก่อนจะมีอาการจมูกผิดรูปจากที่ต้องการ แต่ทางคลีนิคไม่รับผิดชอบ ไม่แก้ไขให้ ตนไม่สามารถรอได้ จึงต้องไปแก้กับคลีนิคอื่น กระทั่งมาทราบจากน้องแยม ว่าเป็นคลีนิคเดียวกัน แต่หมอคนละคน จึงนัดกันเข้ามาร้องเรียน

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้เสียหายเอาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย