นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ทีมเอกชนภูเก็ตเตรียมขอเข้าพบ นายชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านมติคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข คณะที่ 13 ด้านนักท่องเที่ยวปลอดภัย ที่จะนำเอาที่ดินราชพัสดุ ที่กรมธนารักษ์ได้มอบให้กระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อดำเนินโครงการศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก บริเวณหาดไม้ขาว ไปสร้างเป็นศูนย์กักกันโรคจากนักท่องเที่ยวนานาชาติ (World Class Quarantine Tourism Center) ซึ่งไม่ได้อยู่ในแผนเดิม
“ทีมเอกชนและประชาชนในภูเก็ตเห็นว่าไม่มีความจำเป็น โดยหากกระทรวงสาธารณสุขเห็นว่าจำเป็น ก็ขอให้เปิดทำประชาพิจารณ์ และย้ายสถานที่ไปบริเวณสวนป่าบางขนุน ซึ่งเป็นพื้นที่ของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตแทน”
ทั้งนี้ ตามแผนเดิมของโครงการศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เมื่อตอนจังหวัดภูเก็ตได้ยื่นประมูลสิทธิ์เป็นเจ้าภาพงาน Specialised Expo 2028 ช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา จะประกอบด้วย ศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขครบวงจร ศูนย์อภิบาลผู้สูงอายุ พื้นที่สาธารณะ Ecological Park และศูนย์ประชุมนานาชาติ
(แผนบริหารจัดการพื้นที่หลังการจัดงาน สเปเชียลไลส์ เอ็กซ์โป 2028 ที่จังหวัดภูเก็ต เคยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือน มิ.ย. 2023)
“กระทรวงสาธารณสุขคิดง่ายๆ ว่า มีพื้นที่ตรงนี้ที่กรมธนารักษ์มอบให้แล้ว และมีงบที่คณะรัฐมนตรีเคยอนุมัติ 1,411 ล้านบาทมาไว้สำหรับการก่อสร้างศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับนานาชาติ เมื่อตอนไปยื่นประมูลเป็นเจ้าภาพงานเอ็กซ์โป ภูเก็ต 2028 แต่เมื่อประมูลไม่ได้ก็จะแบ่งงบ 150 ล้านบาทมาสร้างศูนย์กักกันโรคจากนักท่องเที่ยวนานาชาติแทน ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไร เพราะโรคระบาดแบบโควิด-19 ไม่ได้เกิดขึ้นทุกปี”
“ถ้ากระทรวงสาธารณสุขไม่มีความสามารถในการทำให้ภูเก็ตดีขึ้นจากที่ดินแปลงนี้ ก็น่าจะคืนกรมธนารักษ์ไป ให้คนอื่นรับไปดูแลแทน เพราะตอนนี้มีหลายหน่วยงานอยากเข้ามาดูแล เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อยากรับพื้นที่นี้ไปดูแลเพื่อนำมาพัฒนาศูนย์ประชุมนานาชาติ”
นายภูมิกิตติ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมเอกชนภูเก็ตกำลังจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกลุ่มจังหวัดอันดามัน (กรอ.อันดามัน) และเสนอต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้หากลไกภาครัฐมาขับเคลื่อนให้เกิดการก่อสร้างศูนย์การประชุมนานาชาติ ในพื้นที่บริเวณหาดไม้ขาว ซึ่งพูดกันมานานเกิน 20 ปีแล้ว ทำให้ภูเก็ตเสียโอกาสและรายได้อย่างมาก
เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีความต้องการจัดประชุมขนาดใหญ่จากหลายประเทศ ภูเก็ตกลับไม่มีพื้นที่รองรับได้ ทำให้ผู้จัดงานต้องเปลี่ยนไปจัดที่กรุงเทพฯ รวมถึงประเทศอื่นๆ อย่างสิงคโปร์ และมาเลเซียแทน เมื่อถึงเวลาจังหวัดภูเก็ตต้องออกไปประมูลสิทธิ์ในการจัดงานนานาชาติก็จะมีจุดอ่อนตรงที่ไม่มีศูนย์ประชุมนานาชาติรองรับ ทั้งที่ภูเก็ตเป็นไมซ์ซิตี้ (MICE City) พร้อมต้อนรับนักเดินทางกลุ่มจัดประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และงานแสดงสินค้า (MICE)
“ผมเชื่อว่านายกฯ เศรษฐา มีความเข้าใจว่าอะไรจะทำให้เศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัดอันดามันดีขึ้น ขอให้หาหน่วยงานรับผิดชอบขับเคลื่อนให้เกิดตรงนี้ ส่วนต่อไปจะเป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) อย่างไร ค่อยว่ากัน”