‘เกาหลี-ญี่ปุ่น’ รุกขยายฐานทัวริสต์อาเซียน เร่งฟื้นตลาดคนไทยปั๊มไฮซีซัน

‘เกาหลี-ญี่ปุ่น’ รุกขยายฐานทัวริสต์อาเซียน เร่งฟื้นตลาดคนไทยปั๊มไฮซีซัน

นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นความหวังในการทำตลาดขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งฝั่ง 'เกาหลี' และ 'ญี่ปุ่น' โดยมี 'นักท่องเที่ยวไทย' เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญปั้นรายได้

จากช่วง 8-9 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยไปเยือนทั้งสองประเทศฟื้นตัวประมาณ 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19

เจมส์ ลี รองประธาน องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวเกาหลีในปัจจุบันฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลวันที่ 25 ก.ย.2566 พบว่าตั้งแต่เดือนม.ค. - ก.ย. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนเกาหลีแล้ว 7.49 ล้านคน ฟื้นตัว 60% จากปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19 โดยเป็น “นักท่องเที่ยวไทย” ประมาณ 2.6 แสนคน ฟื้นตัว 69% เมื่อเทียบกับปี 2562 ถือว่าอยู่ในเชิงบวก สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในปีนี้ ได้แก่ หอคอยนัมซานในกรุงโซล ป้อมปราการฮวาซองในเมืองซู วอน จังหวัดคยองกี เกาะนามิในจังหวัดคังวอน หมู่บ้านฮันอกในจอนจู และสวนสนุกแทจงแดในพูซาน

“KTO” มีแผนจะดึงนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเกาหลีให้มากที่สุด ตั้งเป้าขยายฐานการท่องเที่ยวเกาหลีสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกำหนดให้ปี 2566-2567 เป็น “ปีแห่งการมาเยือนเกาหลี” และได้จัดแคมเปญ “100 กิจกรรมการท่องเที่ยวเกาหลี” ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมเกาหลี

“เราตั้งเป้าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเกาหลี 10 ล้านคน ส่วนในปี 2567 คาดว่าสถานการณ์จะฟื้นตัวเต็มที่ กลับไปสู่สภาวะก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งมีนักเที่ยวอยู่ที่ 17.5 ล้านคนต่อปี”

การท่องเที่ยวแบบ “สมาร์ต ทัวริสซึ่ม” (Smart Tourism) เป็นเทรนด์การท่องเที่ยวมิติใหม่ที่เกาหลีพัฒนาขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้บริการด้านการท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

เมื่อต้นเดือนต.ค. ที่ผ่านมา KTO ได้นำทัพ “สตาร์ตอัป” (Startup) ด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยวผนึกความร่วมมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทย และเวนเจอร์แคปิทัลชั้นนำของไทย จัดฟอรัมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเกาหลี-ไทย “Korea-Thailand Tourism Startup Cooperation Forum” เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และสร้างฐานนวัตกรรมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผ่านความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสตาร์ตอัป นอกจากนี้ยังเดินหน้าลงนามข้อตกลงทางธุรกิจ ผลักดัน Smart Tourism ของเกาหลี เตรียมพร้อมขยายฐานการท่องเที่ยวเกาหลีสู่ตลาด “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

สำหรับไฮไลต์สำคัญในงานดังกล่าวคือ การลงนามข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างเกาหลี และไทย ได้แก่ ข้อตกลงทางธุรกิจสำหรับนวัตกรรมดิจิทัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเกาหลี-ไทย ระหว่าง Yanolja สตาร์ตอัปแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวของเกาหลี และสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) และข้อตกลงทางธุรกิจเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในเกาหลีผ่านช่องทรู และไลฟ์คอมเมิร์ซ ระหว่าง LaLa Station แพลตฟอร์มด้านไลฟ์คอมเมิร์ซ และอี-คอมเมิร์ซ และทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อช่วยในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวและบริการ อาทิ การจัดกระบวนการทางธุรกิจของโรงแรมและบริษัทท่องเที่ยวให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล เช่น การจัดการห้องพัก การวิเคราะห์บิ๊กดาต้า บริการช่วยทำการตลาด ขยายต่อสู่อี-คอมเมิร์ซสำหรับการท่องเที่ยว เป็นต้น รวมไปถึงการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์บนคลาวด์เพื่อช่วยการจัดกระบวนการทางธุรกิจของโรงแรม และบริษัทท่องเที่ยวให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล

“งาน Korea-Thailand Tourism Startup Cooperation Forum นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งหลังจาก KTO ได้ร่วมกับ ททท. กำหนดให้ปี 2566-2567 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวระหว่างเกาหลี และไทย เพื่อให้ทั้งสองประเทศก้าวเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวระดับโลก และนำไปสู่การส่งเสริมยูนิคอร์นด้านการท่องเที่ยว”

เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้ง 2 ประเทศได้ร่วมกันจัดงาน “Korea Everywhere” มหกรรมการท่องเที่ยวเกาหลีครั้งยิ่งใหญ่ที่ประเทศไทย เพื่อฉลองปีแห่งการท่องเที่ยวเกาหลี-ไทย โดยชวนคนไทยมาอัปเดตสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ในเกาหลีผ่านโลก Metaverse ในแอปพลิเคชัน Zepeto

รายงานจาก “องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น” (JNTO) ระบุว่า สถิติการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเยือนญี่ปุ่นในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ตั้งแต่เดือนม.ค.-  ส.ค. พบว่ามีจำนวนสะสม 15,189,900 คน ฟื้นตัว 68.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ตัวเลขเฉพาะเดือนส.ค. อยู่ที่ 2,156,900 คน ฟื้นตัว 85.6% มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 2 ล้านคนเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับนักท่องเที่ยวจาก 5 ประเทศที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นสูงสุดในช่วง 8 เดือนแรก ได้แก่ อันดับ 1 เกาหลีใต้ 4,324,400 คน ฟื้นตัว 91.4% อันดับ 2 ไต้หวัน 2,589,200 คน ฟื้นตัว 77.1% อันดับ 3 ฮ่องกง 1,332,500 คน ฟื้นตัว 88.5% อันดับ 4 สหรัฐ 1,309,400 คน ฟื้นตัว 86.1% และอันดับ 5 จีน 1,272,200 คน ยังฟื้นตัวค่อนข้างน้อยอยู่ที่ 19.3%

ส่วน “นักท่องเที่ยวไทย” เดินทางเข้าญี่ปุ่นมากเป็นอันดับ 6 จำนวน 580,600 คน ฟื้นตัว 72% หลังจากทั้งปี 2562 มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยจำนวนกว่า 1,320,000 คน โดยเมื่อวันที่ 6-8 ต.ค.66 ที่ผ่านมา JNTO สำนักงานกรุงเทพฯ จัด “งานเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง & ทัวร์ ครั้งที่ 15” ภายใต้ธีม More Japan, Much Fun กระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ชื่นชอบการไปญี่ปุ่นอยากเดินทางกลับไปเยือนซ้ำ เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของแต่ละภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว “ชนบทญี่ปุ่น” หรือญี่ปุ่นแบบท้องถิ่น

ด้านตลาดนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังมาแรง พบว่า “เวียดนาม” มีจำนวนสะสม 396,600 คน เติบโต 17.4% ดีกว่าช่วงเดียวกันเมื่อปี 2562 ขณะที่ “สิงคโปร์” มีจำนวน 298,300 คน เติบโต 16.8% ด้านตลาด “ฟิลิปปินส์” ฟื้นตัวกลับสู่ปกติแล้ว ด้วยจำนวน 367,400 คน เติบโต 0.8% ส่วน “อินโดนีเซีย” มีจำนวน 251,000 คน ฟื้นตัว 97.6% แล้ว และ “มาเลเซีย” มีจำนวน 230,900 คน ฟื้นตัว 82.3%

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์