‘เดนท์สุ’ผ่าเทรนด์การตลาดแห่งอนาคต รับมือ ‘โลก ผู้บริโภค เทคโนโลยี’ เปลี่ยน

‘เดนท์สุ’ผ่าเทรนด์การตลาดแห่งอนาคต   รับมือ ‘โลก ผู้บริโภค เทคโนโลยี’ เปลี่ยน

ธุรกิจอาจต้องเหลียวหลังเพื่อมองเกมการแข่งขัน คู่แข่งไล่กวดใกล้ไกลแค่ไหน ทว่า ในโลกการตลาด “นักการตลาด” กลับต้องจับต้อง “อนาคต” เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม เพราะนอกจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็ว เทคโนโลยี เครื่องไม้เครื่องมือทางการตลาดก็ปรับแรงไม่แพ้กัน

งานสัมมนาใหญ่แห่งปี “dentsu Decode 2024” โดยเอเยนซียักษ์ใหญ่ของเมืองไทย “เดนท์สุ ประเทศไทย” ต้องการนำทัพปฏิวัติโลกอีคอมเมิร์ซ ได้นำเสนอประเด็นที่นักการตลาดยังต้องเกาะติดมากมาย หนึ่งในนั้นคือหัวข้อ “THE NOW, NEAR, AND NEXT” จากมุมมองของนักการตลาดและแม่ทัพธุรกิจ โอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ ประเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาดและนวัตกรรม เดนท์สุ ประเทศไทย

“โอลิเวอร์” ตั้งคำถามกับนักการตลาดถึงสมรภูมิการแข่งขันในโลกการค้า จำกัดวงแค่ประเทศไทย รู้หรือไม่ว่าแต่ละปีมีผู้เล่นหน้าใหม่ คู่แข่งเพิ่มขึ้นแค่ไหน คำตอบคือจำนวนมากหลักหมื่นราย อย่างปี 2565 จำนวนธุรกิจเกิดใหม่ที่จดทะเบียนผ่านกรมธุรกิจการค้ามากถึง 76,488 ราย

ภาพดังกล่าวสะท้อนระบบนิเวศทางธุรกิจที่ถูกกระตุ้น ท้าทายบนเวทีการค้าอย่างมาก นอกจากนี้ อีคอมเมิร์ซ การค้าดิจิทัลผ่านสารพัดแพลตฟอร์มออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ยังทำให้วิธีการทำตลาดต้องพลิกกระบวนท่า นักการตลาดต้องคิดใหม่ ปรับตัวให้สอดคล้องกับบริบทที่เกิดขึ้น

บทบาทเดิมๆ ของนักการตลาดที่มุ่งเป้าสร้างการเติบโตด้านยอดขาย กำไร ผลักดันให้หมวดหมู่สินค้าต่างหรือแคทิกอรีเติบโต ไม่พอ แต่ต้องสร้างแบรนด์ หานวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดจนการสร้าง “ประสบการณ์ให้ลูกค้า” เป็นขอบเขตที่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น

“ภาพรวมบทบาทของนักการตลาดมีความซับซ้อนมากขึ้น เพราะไม่เพียงวางกลยุทธ์ ทำการตลาด แต่ต้องเข้าใจแพลตฟอร์มต่างๆ บริหารจัดการแบรนด์ คอนเทนต์ การลงทุนด้านสื่อให้คุ้มค่า การวัดผลลัพธ์ของการลงทุน การเชื่อมต่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ฯ นักการตลาดต้องปรับตัว

‘เดนท์สุ’ผ่าเทรนด์การตลาดแห่งอนาคต   รับมือ ‘โลก ผู้บริโภค เทคโนโลยี’ เปลี่ยน

โลกการตลาดกำลังขับเคลื่อนไปอนาคตอย่างไร “โอลิเวอร์” หยิบการตลาด 5.0(Marketing 5.0) มาฉายภาพ 2 มิติ ที่ถูกกล่าวถึงกันมาก หนีไม่พ้นการขับเคลื่อนงานตลาดด้วยข้อมูลหรือ Data-Driven Maketing และ การตลาดปรับตัวยืดหยุ่นเก่ง หรือ Agile Marketing ทว่า ยังมีสิ่งที่ละเลยไม่ได้ คือการเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดด้วยเทคโนโลยี(Augmented Marketing) การตลาดที่รู้ใจ รู้พฤติกรรมผู้บริโภค(Predictive Marketing) และการเข้าใจบริบทของลูกค้า(Contextual Marketing) เพื่อออกแบบประสบการณ์ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย

รวมถึงการทำตลาดยุคนี้ต้องใส่ใจ “สังคม” และตระหนักด้าน “ความยั่งยืน" มากขึ้นด้วย

“ทุกอย่างเกิดจากผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง การใส่ใจสังคม และความยั่งยืนโลก เป็นแรงกดดันให้นักการตลาดสร้างสรรค์สิ่งที่ดี ไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้น”

ยุคนี้ปฏิเสธเทคโนโลยีไม่ได้ โมเดลการเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำตลาดด้วยการเรียนรู้ของเครื่องมือหรือ Machine Learning ตลอดจนการนำปัญญาประดิษฐ์หรือ Artificial Intelligence :AI มาใช้ ช่วยการตัดสินในต่างๆมีบทบาทมากขึ้น

‘เดนท์สุ’ผ่าเทรนด์การตลาดแห่งอนาคต   รับมือ ‘โลก ผู้บริโภค เทคโนโลยี’ เปลี่ยน “อนาคตจะเห็นว่าโมเดล Marketing Maturity บ่งชี้ไม่ว่านักการตลาดจะชอบหรือไม่ชอบเอไอ แต่มันคือเครื่องมือของการทำธุรกิจในโลกปัจจุบัน ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำตลาด แต่แน่นอนว่าการวัดผลลัพธ์สำคัญไม่แพ้กัน”

ปัจจุบันโลกเต็มไปด้วยข้อมูล และทุกอากัปกิริยาของลูกค้าล้วนถูกจับจ้องผ่าน “หน้าจอ” เกิดเป็นปฏิริยาโต้ตอบ(Customer Interaction) ที่กลายเป็นอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ที่มีค่าสำหรับนักการตลาด แต่ข้อมลมีมหาศาลมากขึ้นเรื่อยๆ ทำอย่างไรจะต่อยอดการวางแผนสื่อสาร สร้างเอนเกจเมนต์ ตลอดจนซื้อใจกลุ่มเป้าหมายได้ นี่เป็นโจทย์ที่ห้ามมองข้าม

“ประสบการณ์” คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในการทำตลาด การปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับลูกค้าถือเป็น “แบรนด์ใหม่” ทลายภาพแบรนด์ไม่ใช่แค่โลโก้ หรือเรื่องราวของตราสินค้าแบบเดิมๆที่ผู้บริโภครับรู้อีกต่อไป และเส้นทางการซื้อของผู้บริโภค(Customer Journey)กลายเป็นของล้ำค่าสำหรับนักการตลาด เพราะนำไปสู่การ “สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่” ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

“วันนี้ผู้บริโภคกลายเป็นสื่อเสียเอง ผู้บริโภคฟังแบรนด์น้อยลง อ่านรีวิวมากขึ้น หมดยุคแล้วที่แบรนด์จะเป็นเครื่องมือทางการตลาด เพราะแบรนด์ไม่ได้ต่อสู้ในอุตสาหกรรมที่ตัวเองอยู่เท่านั้น ท่ามกลางแบนด์ ธุรกิจที่เกิดใหม่ดาษดื่นในแต่ละปี กลายเป็นความท้าทายให้นักการตลาดต้องหาทางตอบโจทย์ในการสร้างแบรนด์ว่า..ทำไมลูกค้าต้องเลือกและซื้อแบรนด์เราซ้ำ”

อย่างไรก็ตาม การทำตลาดยุคนี้สิ่งที่นักการตลาดวาดเป้าความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ยอดขาย ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่ม แต่ต้องทำทุกทางให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย “จดจำแบรนด์” เพื่อครองใจอย่างยั่งยืน