‘แอร์เอเชีย’ รับแรงหนุนวีซ่าฟรี ‘จีนเที่ยวไทย’ โกยผู้โดยสารไฮซีซัน 90-95%

อนุญาตให้พำนักในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2566 - 29 ก.พ. 2567 เป็นระยะเวลาประมาณ 5 เดือน ก็ถึงคราวสายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย” และ “ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” ลุยสยายปีก เร่งโกยผู้โดยสารเต็มกำลัง!

ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ฉายภาพว่า หลังจากรัฐบาลดำเนินมาตรการวีซ่า-ฟรีแก่นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักของภาคการท่องเที่ยวไทย พบว่ายอดจอง (บุ๊กกิ้ง) ตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าของเส้นทางบินระหว่าง “ไทย-จีน” ในไตรมาส 4 ปีนี้เริ่มกระเตื้องขึ้น แต่ว่ายังไม่ทุกเส้นทาง

อย่างเดือน ก.ย.นี้ แม้ยังอยู่ในช่วงโลว์ซีซัน ปกติเที่ยวบินตรงเส้นทาง เซี่ยงไฮ้ - กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (รหัสเที่ยวบิน XJ) จะมี “อัตราการขนส่งผู้โดยสาร” (Load Factor) ที่ระดับ 70-80% แต่เที่ยวบิน XJ 761 ของเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ซึ่งเป็นวันแรกของการดำเนินมาตรการวีซ่า-ฟรี พบว่ามีผู้โดยสารเดินทางเข้าไทย 341 คน มากกว่า 90% ของที่นั่งโดยสารทั้งหมด 377 ที่นั่ง จึงประเมินว่าได้อานิสงส์จากมาตรการวีซ่า-ฟรีโดยตรง!

“อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์การจองตั๋วเครื่องบินอีกสัก 2-3 สัปดาห์ ถึงจะเห็นว่ามาตรการวีซ่า-ฟรี ช่วยกระตุ้นภาคท่องเที่ยวได้หรือไม่ มากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่ากระตุ้นได้แน่ๆ”

นอกจากนี้ ต้องมาดูว่าเมื่อนักท่องเที่ยวจีนกลับมาแล้ว ผลการดำเนินงานของ “เที่ยวบินในประเทศ” จะเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าโหลดแฟคเตอร์ของเส้นทางบินในประเทศกระเตื้องขึ้นด้วย ก็แสดงว่ามาตรการวีซ่า-ฟรีของรัฐบาลได้ผล...หรือ “เวิร์คจริง!” เพราะนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาใช้จ่ายในประเทศ และต้องดูทุกสายการบิน ไม่ใช่เฉพาะของ “กลุ่มแอร์เอเชีย” อย่างเดียว

เฉพาะสายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” ปัจจุบันทำการบินเส้นทางสู่ประเทศจีน 1 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) - เซี่ยงไฮ้ ให้บริการความถี่ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และจะเพิ่มเป็น 1 เที่ยวบินต่อวันในสิ้นปีนี้ ส่วนอีกหนึ่งเส้นทาง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) - ปักกิ่ง จะกลับมาให้บริการอีกครั้งในปลายปีนี้ เริ่มต้นด้วยความถี่ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

“ช่วงโกลเด้นวีคหยุดยาววันชาติจีน (1 ต.ค.) และเทศกาลตรุษจีน ถือเป็นช่วงที่เส้นทางบินระหว่างไทย-จีน มีโหลดแฟคเตอร์ขึ้นถึงระดับกว่า 90% อยู่แล้ว จากนั้นลูกค้าจะซาลง แต่พอได้มาตรการวีซ่า-ฟรีมาช่วยในช่วง 5 เดือนไฮซีซันนี้ ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2566 ถึงเดือน ก.พ. 2567 ก็น่าจะทำให้โหลดแฟคเตอร์เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-10% จากปกติอยู่ที่ระดับกว่า 80% ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 90-95% บางเที่ยวบินอาจไปถึง 96-98% หรือเกือบเต็มลำตลอดไฮซีซันนี้ ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีเลย ไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่ได้ดีเฉพาะสายการบินในกลุ่มแอร์เอเชียที่ทำการบินเส้นทางไทย-จีนเท่านั้น แต่รวมถึงสายการบินอื่นๆ ทั้งสัญชาติไทยและจีนด้วย”

ประกอบกับช่วงนี้ “ราคาน้ำมัน” ปรับขึ้น เมื่อกลุ่มแอร์เอเชียได้โหลดแฟคเตอร์เพิ่มขึ้น ก็ช่วยตรงนี้ได้พอดี หักลบกลบกันแล้ว ถือว่าเสมอตัว!

โดยหลังจากรัฐบาลดำเนินมาตรการวีซ่า-ฟรีแก่นักท่องเที่ยวจีนแล้ว มองว่าตลาดที่มีศักยภาพอื่นๆ เช่น “อินเดีย” และประเทศอื่นๆ เป็นหนึ่งในหมุดหมายที่อยากให้รัฐบาลพิจารณาออกมาตรการวีซ่า-ฟรีเพิ่มเติม เนื่องจากอินเดียเป็นตลาดใหญ่ที่ “กำลังมาแรง” และเป็นกลุ่มแรกๆ ที่กลับมาเร็วหลัง “ไทยเปิดประเทศ” ฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว โดยจากสถิตินักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้าไทยสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 24 ก.ย. มีจำนวนกว่า 1,128,868 คน ถ้าได้มาตรการวีซ่า-ฟรีมากระตุ้นอีก ก็น่าจะช่วยขับดันให้นักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้าไทยมากขึ้น

“จริงๆ รัฐบาลก็มีพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วเกี่ยวกับมาตรการด้านวีซ่าสำหรับตลาดอินเดีย เพียงแต่ว่าอาจจะขอดูผลลัพธ์ของตลาดจีนกับคาซัคสถานก่อน แล้วค่อยสลับไปใช้มาตรการนี้กับตลาดอินเดียภายหลัง ก็ต้องติดตามกันต่อว่ารัฐบาลจะดำเนินมาตรการด้านวีซ่ากับตลาดอื่นๆ อย่างไร”

ธรรศพลฐ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับมาตรการวีซ่า-ฟรีแก่ตลาดจีน แน่นอนว่าคนที่ได้อานิสงส์และแฮปปี้มากที่สุดคือประเทศไทยอยู่แล้ว โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคท่องเที่ยว รัฐบาลคงรอติดตามผลว่า 5 เดือนไฮซีซันนี้จะเป็นอย่างไร

“ถ้าเห็นว่าได้ผลดี รัฐบาลจะพิจารณาต่ออายุมาตรการนี้หรือไม่ ก็แล้วแต่ท่านนายกฯ เศรษฐา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะพิจารณา”

สันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลไทยประกาศมาตรการวีซ่า-ฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย ได้รับการตอบรับที่ดีมาก คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงไฮซีซันที่มีเทศกาลสำคัญ ได้แก่ วันชาติจีน และตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวจีนส่วนใหญ่จะเดินทางท่องเที่ยว และเมืองไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางแรกๆ ในใจของชาวจีนมาโดยตลอด! 

“ในฐานะภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว ยินดีอย่างมากที่รัฐบาลให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการเรื่องวีซ่า-ฟรีให้เห็นผลอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของเมืองไทยให้ดีขึ้นในสายตาของชาวจีน โดยหลังจากที่มาตรการดังกล่าวมีผลแล้ว คาดว่าน่าจะเห็นการเดินทางเข้าเมืองไทยของชาวจีนเพิ่มมากขึ้น สายการบินก็พร้อมอัดโปรโมชันเพื่อช่วยกระตุ้นการเดินทางเช่นกัน” 

ปัจจุบันสายการบินไทยแอร์เอเชีย มีเส้นทางบินตรงจาก 11 เมืองในประเทศจีนสู่ประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 12 เส้นทางบิน ได้แก่ เซินเจิน กว่างโจว เฉิงตู ฉงชิ่ง คุนหมิง อู่ฮั่น ฉางซา หางโจว ซีอาน ซัวเถา ปักกิ่ง และสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ มีจำนวน 1 เส้นทาง ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ - กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)