‘อินเด็กซ์' ขยายน่านน้ำรับอีเวนต์ฟื้น ลุยเทรดโชว์นำนักธุรกิจไทยบุกตปท.

‘อินเด็กซ์' ขยายน่านน้ำรับอีเวนต์ฟื้น ลุยเทรดโชว์นำนักธุรกิจไทยบุกตปท.

อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ขยายน่านน้ำใหม่ ปักหมุด 5 ตลาดกำลังโตทั้งซาอุดีอาระเบีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย กัมพูชา ร่วมนำทัพภาคเอกชนไทยขนาดใหญ่เปิดโอกาสการค้า การลงทุน ประเดิม ธ.ค.นี้ จัดงาน Thailand Mega Fair 2023 - The Kingdom of Saudi Arabia นำ 250 บริษัท ลุยซาอุฯ

สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ บรรดาผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชนต่างทุ่มงบประมาณในการจัดกิจกรรมมากขึ้นเป็นสัญญาณบวกของธุรกิจ “อีเวนต์” ได้เวลาเทิร์นอะราวด์! บิ๊กเพลย์เยอร์ "อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ" เปิดกลยุทธ์พาทัพ “นักธุรกิจไทย” ลุยตลาดต่างประเทศเต็มตัว! ขยายเครือข่ายทางการค้า การลงทุน สร้างโอกาสและการเติบโตทางธุรกิจ

เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์ครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน “บริษัทครีเอทีฟอีเวนต์อันดับ 7 ของโลก” กล่าวว่า การจัดงานอีเวนต์ขณะนี้เริ่มขยายตัวดี แม้งานภาครัฐยังมีน้อย แต่มีการจัดงานจากภาคเอกชนมากขึ้น รวมถึงการจัดงานแสดงคอนเสิร์ตในไทยที่กลับมาคึกคัก ทำให้ภาพรวมตลาดปี 2566 กลับมาขยายตัวถึงระดับหมื่นกว่าล้านบาท แต่ยังไม่เทียบเท่ากับก่อนช่วงเกิดโควิด

"ปีนี้เป็นปีที่ท้าทายของอินเด็กซ์ฯ ภาพรวมตลอดปีดี เราได้สร้างสรรค์งานสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบงานอีเวนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่เรามีความแข็งแกร่ง เป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในและต่างประเทศ"

ทั้งนี้ อินเด็กซ์ โฟกัส 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ Marketing Service, Creative Business Development และ Own Creation ในการสร้างการเติบโตระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ Own Creation หรือ ไลฟ์สไตล์ เทรดแฟร์ เป็นเรือธงที่จะมีการขยายตัวมากขึ้น ผ่านการนำภาคเอกชนไทย ร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ (เทรดโชว์)

‘อินเด็กซ์\' ขยายน่านน้ำรับอีเวนต์ฟื้น ลุยเทรดโชว์นำนักธุรกิจไทยบุกตปท.

"จีดีพีไทยเทียบเพื่อนบ้านในอาเซียนเติบโตน้อยกว่า ธุรกิจไทยต้องไปขยายตัวในต่างประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัวดี ดังนั้นปีหน้าเรามุ่งขยายตลาดต่างประเทศเต็มตัวเน้น  5 ประเทศ ซาอุดีอาระเบีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ กัมพูชา และอินโดนีเซีย"

กลยุทธ์งานเทรดแฟร์ของอินเด็กซ์ฯ มุ่งนำทัพนักธุรกิจไทยบุกตลาดเอเชีย ขยายเครือข่ายทางการค้า การลงทุน ตลอดปี 2567 เป็นการสร้างโอกาสและเจาะตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง สามารถขยายตลาดเพื่อเปิดการค้ากับประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมผู้ประกอบการ นักลงทุนด้านต่างๆ ที่ต้องการจะขยายและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น โดยมีแนวคิดหลักคือ เพิ่มโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ขยายโอกาสทางการค้าการลงทุน หาคู่ค้าและพันธมิตรทางการค้า ขยายดิสทริบิวเตอร์ เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและต้องการสินค้าไทยจำนวนมาก

​หนึ่งในหมุดหมายสำคัญ “ซาอุดีอาระเบีย” หลังไทยและซาอุฯ กลับมากระชับความสัมพันธ์ในรอบ 30 ปี มีความร่วมมือทางเศรษฐกิจร่วมกัน การท่องเที่ยวขยายตัว มีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางมาไทยกว่า 3 แสนคนในปีก่อน มาจากซาอุฯ กว่า 1 แสนคน

ซาอุฯ เป็นโอกาสผู้ประกอบการไทยทั้งในกลุ่มสินค้าอาหาร เฮลธ์แคร์และเวลเนส ท่องเที่ยว และตลาดรถยนต์ที่กำลังขยายตัว ซึ่งซาอุฯ มีขนาดจีดีพีใหญ่กว่าไทย 4-5 เท่า จากจำนวนประชากรกว่า 36 ล้านคนมีกำลังซื้อสูง เป็นดินแดนแห่งโอกาสทองและดาวรุ่งการลงทุนที่มีมูลค่ามหาศาล เป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูงภายใต้แผน Saudi Vision 2030 จะมีการลงทุนในภาคเศรษฐกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน 4 ล้านล้านดอลลาร์ โครงการก่อสร้าง 4,700 โครงการ เช่น โครงการที่อยู่อาศัย THE LINE สนามบิน KING SALMAN และสายการบิน RIYADH AIR ใน 7 ปีข้างหน้า ซาอุฯ จะเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญของนักธุรกิจที่ต้องการบุกตลาดที่มีกำลังซื้อสูง

โดยเตรียมจัดงาน Thailand Mega Fair 2023 - The Kingdom of Saudi Arabia ระหว่างวันที่ 13-16 ธ.ค.2566 ณ The Arena Riyadh กรุงริยาด โดยร่วมกับ สภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทย ในการจัดงานนี้ นับเป็นงานแสดงสินค้าและบริการของไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ รวบรวมสินค้าและบริการนวัตกรรมจากประเทศไทยทุกด้านสู่ใจกลางของกำลังซื้อที่ทรงพลังที่สุดในตะวันออกกลาง

โดยมีผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยร่วมงาน อาทิ สยามพิวรรธน์ SCG International BDMS มาม่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สถาบันการบินพลเรือน โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลเวชธานี โรงพยาบาลสุขุมวิท โรงพยาบาลเอเซีย พานาซี เมเดิคอล เซ็นเตอร์ วิทยาศรม ยาดมตราโป๊ยเซียน รีโว่เมด ซี แวลู แม่น้ำ กรุ๊ป ไฮคิว ข้าวตราหงษ์ทอง คาเฟ่อเมซอน ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ สตาร์แอร์ แอร์อามีน่า บิทไวส์ กรุ๊ป เข็มเหล็ก ซัมมิท ฟุตแวร์ และผู้ประกอบการชั้นน้ำด้านน้ำมันจากไม้กฤษณา ยังมีเอสเอ็มอีไทย ที่สนใจไปร่วมขยายตลาดใหม่ในครั้งนี้

‘อินเด็กซ์\' ขยายน่านน้ำรับอีเวนต์ฟื้น ลุยเทรดโชว์นำนักธุรกิจไทยบุกตปท. เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ 

“อินเด็กซ์ยังได้ปรับ Strategy หลายอย่างเพราะการโตให้ Sustainability ต้องสร้างงานเอง พร้อมนำธุรกิจไทยบุกต่างประเทศ"

สำหรับเทรดโชว์ในซาอุฯ วางแผนจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ในปี 2567 จะจัดขึ้นเดือน พ.ย. ส่วน 3 ตลาดใหม่ ที่ขยายไปจัดงานครั้งแรก ได้แก่ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย ต่างมีศักยภาพการเติบโตที่ดีและอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบในงานจัดงาน โดยเฉพาะอินโดนีเซีย มีความน่าสนใจที่มีจำนวนประชากรกว่า 250 ล้านคน ถูกจับตามองเป็นเสือเศรษฐกิจใหม่แห่งอาเซียน  ปัจจุบันรัฐบาลอินโดนีเชีย ปรับยุทธศาสตร์ระยะยาว เพิ่มเม็ดเงินการลงทุนตั้งฐานการผลิตและยังได้พัฒนาส่วนต่างๆ มากมาย การจัดการภาคสาธารณะ โครงสร้างพื้นฐาน ช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดของนักธุรกิจไทย

เกมรุกของอินเด็กซ์ฯ จะทำให้รายได้ปี 2567 กลับมาขยายตัวใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด สำหรับ 3 เดือนโค้งสุดท้ายปีนี้จะมีการจัดงานทั้ง กิโลรัน (KILORUN) มหกรรมงานวิ่งที่ไม่ได้วัดเป็นกิโลเมตรอย่างเดียว แต่วัดเป็นกิโลกรัม ชูไลฟ์สไตล์เก๋ วิ่ง เที่ยว กิน เน้นการพัฒนายกแหล่งท่องเที่ยวให้กลายเป็นไอคอนนิกดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกปีนี้ประเดิมจังหวัดแรก ภูเก็ต และเดือน ธ.ค. จัดที่กรุงเทพฯ งาน Village of Wonder ดอยช้าง วันที่ 6 ต.ค.-31 พ.ย. และ Brewtopia Bangkokวันที่ 17-19 พ.ย. ณ โกดัง เสริมสุข

ปี 2566 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมมากกว่า 1,000 ล้านบาท เติบโต 6% จากปีก่อน มาจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลักที่เติบโตทั้งหมด โดยกลุ่ม Marketing Service มีสัดส่วนรายได้ 82% Creative Business Development ราว 12% และOwn Creation ประมาณ 7% กลุ่มหลังนี้ปีหน้าประเมินว่าจะมีสัดส่วนมากกว่า 10%