‘ทริปดอทคอมกรุ๊ป’ ยักษ์ OTA จีน เผยอนาคต ‘ท่องเที่ยวโลก’ ยุคหลังโควิด

‘ทริปดอทคอมกรุ๊ป’ ยักษ์ OTA จีน เผยอนาคต ‘ท่องเที่ยวโลก’ ยุคหลังโควิด

‘ทริปดอทคอมกรุ๊ป’ (Trip.com Group) ยักษ์ท่องเที่ยวออนไลน์สัญชาติจีน เผยอนาคตการท่องเที่ยวโลกในงาน ‘Envision 2023’ ที่กรุงเทพฯ เมื่อกลางเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา มั่นใจศักยภาพ ‘นักท่องเที่ยวจีน’ เติบโตในช่วงหลังการระบาดของโควิด-19

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2566 “ทริปดอทคอมกรุ๊ป” (Trip.com Group) ได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของการท่องเที่ยวในงาน Envision 2023 ซึ่งเป็นงานประชุมพันธมิตรในระดับโลก โดยงานประชุมนี้มีพันธมิตรจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประมาณ 700 รายเข้าร่วมจากทั่วโลก

เจมส์ เหลียง ประธานบริหารของ Trip.com Group กล่าวว่า “การเดินทางเป็นสิ่งพิเศษที่ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยเติมเต็มความต้องการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ของเราอีกด้วย Trip.com Group มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างประสบการณ์การเดินทางและแสดงความรับผิดชอบของอุตสาหกรรมไปพร้อมๆ กัน เราเชื่อว่าการเดินทางเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ และมีพลังในการสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ขับเคลื่อนความก้าวหน้า และส่งเสริมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความเข้าใจกันระหว่างผู้คนจากทั่วโลก”

‘ทริปดอทคอมกรุ๊ป’ ยักษ์ OTA จีน เผยอนาคต ‘ท่องเที่ยวโลก’ ยุคหลังโควิด

เจน ซุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Trip.com Group กล่าวในงานประชุมถึงเส้นทางการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาของบริษัท ซึ่งรวมถึงโครงการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการเพื่อสนับสนุนพันธมิตรในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาหลายปีนี้ Trip.com Group ได้ให้ความร่วมมือเชิงรุกกับพันธมิตรทั้งในด้านโรงแรม เที่ยวบิน วันหยุดพักผ่อน และสถานที่ท่องเที่ยว โดยให้การสนับสนุนเกี่ยวกับการบริการนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดในหลายตลาดทั่วโลก ในปี 2562 ยอดใช้จ่ายระหว่างประเทศ 15% มาจากนักท่องเที่ยวชาวจีน และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงระยะหลังการระบาดของโควิด-19

‘ทริปดอทคอมกรุ๊ป’ ยักษ์ OTA จีน เผยอนาคต ‘ท่องเที่ยวโลก’ ยุคหลังโควิด

เพิ่มมูลค่าให้แก่พันธมิตรในทุกระดับ

เจน ยังได้เล่าถึงกลยุทธ์ของ Trip.com Group ในการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในอนาคตว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Trip.com Group ได้เสริมสร้างเทคโนโลยีของเราเองให้แข็งแกร่ง พร้อมทั้งดำเนินกลยุทธ์แบบเจาะกลุ่มในตลาดต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้พันธมิตรได้เข้าถึงผู้ใช้ของเรา ซึ่งรวมถึงการถ่ายทอดสดผ่าน BOSS Live การเพิ่มความน่าสนใจของราคาตั๋วเครื่องบินทั่วโลก การเปิดตัวผู้ช่วยเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์หรือ AI อย่าง TripGenie และอื่นๆ อีกมากมาย

“วันนี้เราอยู่ในจุดที่สามารถสนับสนุนให้พันธมิตรของเราปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ รวมถึงขยายการเข้าถึงไปยังลูกค้าต่างประเทศได้ เราจะใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมจุดยืนของพันธมิตรให้แข็งแกร่งขึ้น และทำให้ข้อเสนอของพันธมิตรเป็นที่โดดเด่นมากขึ้นในสายตาของลูกค้า รวมถึงผู้บริโภคที่มีการใช้จ่ายสูงจากประเทศจีน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการด้านการท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้มวลรวมและการจ้างงานทั่วโลก และ Trip.com Group จะยังคงใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงต่อไปเพื่อสร้างโอกาสและการเติบโตใหม่ๆ ให้แก่พันธมิตรของเรา

 

กำหนดวิสัยทัศน์ที่ยั่งยืนของการท่องเที่ยวเพื่ออนาคต

ในด้านความยั่งยืน ผู้นำระดับสูงของบริษัทได้เจาะลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์ ESG ที่ครอบคลุม รวมถึงแนวทางของอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน

เจน ยืนยันถึงแนวโน้มที่ดีในธุรกิจที่ได้รับการฟื้นฟูและใส่ใจในด้านสิ่งแวดล้อม โดยกล่าวว่า ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับการฟื้นฟูนี้ โอกาสข้างหน้ายังมีอีกมากมาย เรามีศักยภาพที่จะพลิกโฉมการท่องเที่ยว ด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย การขยายความร่วมมือกับพันธมิตร และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่แข็งแกร่ง เมื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ เรามองเห็นอนาคตการท่องเที่ยวที่ไม่เพียงแต่จะเฟื่องฟูขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับพันธมิตร นักลงทุน นักท่องเที่ยวของเรา  และเราจะเดินทางร่วมกันสู่อนาคตของการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและรุ่งเรือง”