‘กำนันป้อ’ นำขบวน! ส่งลูกสาว ‘สุดาวรรณ’ รมต.ป้ายแดง เข้ากระทรวงท่องเที่ยวฯ

‘กำนันป้อ’ นำขบวน! ส่งลูกสาว ‘สุดาวรรณ’ รมต.ป้ายแดง เข้ากระทรวงท่องเที่ยวฯ

‘กำนันป้อ’ มาเอง! ร่วมยินดี ส่งลูกสาว ‘ปุ๋ง-สุดาวรรณ’ เข้าทำงานกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาวันแรก ถือฤกษ์ดี 14 ก.ย. รมต.ป้ายแดงลุยปั้นรายได้ ‘การท่องเที่ยว’ ควิกวินเศรษฐกิจไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ก.ย.) นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีกำหนดเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดยเดินทางถึงกระทรวงฯ เวลา 12.39 น. บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ชื่นมื่น มีผู้บริหารจากหน่วยงานของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกลุ่มผู้สนับสนุนมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างเนืองแน่น โดยได้รับรายงานว่ามีกลุ่มผู้สนับสนุนเดินทางจาก จ.นครราชสีมา ด้วยรถตู้กว่า 20 คัน

ทั้งนี้ “กำนันป้อ” หรือ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินนำขบวนของนางสาวสุดาวรรณ ผู้เป็นบุตรสาว และคณะทำงานเข้าสู่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ

หลังจากนางสาวสุดาวรรณเข้าสักการะศาลพระภูมิเทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ ณ ห้องทำงานรัฐมนตรี เวลา 13.00 น. พร้อมมอบพวงมาลัยแก่นายวีรศักดิ์ และรับพรในวาระเริ่มงานที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นวันแรก

‘กำนันป้อ’ นำขบวน! ส่งลูกสาว ‘สุดาวรรณ’ รมต.ป้ายแดง เข้ากระทรวงท่องเที่ยวฯ

หลังจากนั้น เวลาประมาณ 13.20 น. นางสาวสุดาวรรณ ได้ลงมายังห้องโถงชั้นล่างของกระทรวงฯ เพื่อพบปะผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แขกผู้มีเกียรติทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสื่อมวลชน

‘กำนันป้อ’ นำขบวน! ส่งลูกสาว ‘สุดาวรรณ’ รมต.ป้ายแดง เข้ากระทรวงท่องเที่ยวฯ

‘กำนันป้อ’ นำขบวน! ส่งลูกสาว ‘สุดาวรรณ’ รมต.ป้ายแดง เข้ากระทรวงท่องเที่ยวฯ

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ตั้งเป้าหมายเชิงท้าทาย สร้างรายได้รวมการท่องเที่ยวจากทั้งตลาดในและต่างประเทศ 4 ล้านล้านบาทให้ได้เร็วที่สุด โดยแบ่งเป็นรายได้การท่องเที่ยวเฉพาะ “ตลาดต่างประเทศ 3 ล้านล้านบาท” เพิ่มขึ้น 58% จากปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาดซึ่งสร้างรายได้ 1.9 ล้านล้านบาท ส่วนรายได้ตลาดในประเทศวางเป้าไว้ที่ 1 ล้านล้านบาท

“กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ถือเป็นกระทรวงสร้างรายได้เข้าประเทศได้รวดเร็ว และภาคการท่องเที่ยวถือเป็นควิกวินของเศรษฐกิจไทย เห็นได้จากนโยบายยกเว้นวีซ่า (วีซ่า-ฟรี) เป็นการชั่วคราวนานประมาณ 5 เดือนแก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2566 – 29 ก.พ. 2567 ตามที่ ครม.เพิ่งมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ซึ่งดำเนินได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มองว่าน่าจะไปถึงเป้าหมายสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 ล้านล้านบาทได้ในอนาคต”

โดยเบื้องต้นคาดการณ์ว่าช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2566 ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 7 แสนคนต่อเดือน จากนั้นจะประเมินผลการดำเนินมาตรการและอาจพิจารณาเพิ่มประเทศเป้าหมายในการออกมาตรการ “วีซ่า-ฟรี” อย่างไรก็ตามหน่วยงานรัฐต้องเร่งกระตุ้นและทำตลาด “สร้างความเชื่อมั่น” ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน หลังเกิดกระแสข่าวในโซเชียลมีเดียที่มีการเผยแพร่ “ข่าวลือเชิงลบ” ของประเทศไทย ทำให้นักท่องเที่ยวจีนกังวลเรื่องความปลอดภัย

‘กำนันป้อ’ นำขบวน! ส่งลูกสาว ‘สุดาวรรณ’ รมต.ป้ายแดง เข้ากระทรวงท่องเที่ยวฯ