ทัวร์จีนคึกรับยาแรง 'วีซ่าฟรี' จี้รัฐบาลฟื้นเชื่อมั่น 'เที่ยวไทยปลอดภัย'

ทัวร์จีนคึกรับยาแรง 'วีซ่าฟรี' จี้รัฐบาลฟื้นเชื่อมั่น 'เที่ยวไทยปลอดภัย'

'ทัวร์จีน' ตีปีกรับ ครม. ไฟเขียว 'วีซ่าฟรี' ชั่วคราว 5 เดือนแก่ 'จีน-คาซัคฯ' เที่ยวไทยไม่ต้องขอวีซ่า คาดจีนแห่เข้าพักโรงแรม 5 ดาว 'แอตต้า' ย้ำโจทย์ยากนายกฯ เศรษฐา เร่งฟื้นเชื่อมั่นชาวจีน 'เที่ยวไทยปลอดภัย' ด้าน 'สุดาวรรณ' รมว.ท่องเที่ยวฯ ป้ายแดง ได้ฤกษ์เข้ากระทรวง 14 ก.ย.

‘ทัวร์จีน’ ลุยโปรโมต ‘เที่ยวไทยไม่ต้องขอวีซ่า’

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า หลังจาก ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการยกเว้นวีซ่า (วีซ่า-ฟรี) เป็นการชั่วคราว แก่นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนและคาซัคสถาน เป็นระยะเวลา 5 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.2566 - 29 ก.พ.2567 ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั้งสองประเทศสามารถเดินทางเข้าไทยได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า เมื่อผู้ประกอบการทัวร์ทั้งฝั่งไทยและจีนรับทราบประกาศอย่างเป็นทางการ ต่างตอบรับข่าวดีนี้อย่างมาก ทางผู้ประกอบการทัวร์จีนบอกว่าพร้อมกระจายข่าวทันที นำมาตรการวีซ่า-ฟรีนี้ไปโปรโมตขายแพ็กเกจท่องเที่ยว ว่ามาเที่ยวไทยไม่ต้องขอวีซ่าในช่วงไฮซีซันนี้

“ไฮซีซันนี้ผู้ประกอบการทัวร์สามารถโปรโมตดึงคนจีนหนีหนาวมาเที่ยวเมืองไทยได้ง่ายขึ้น มีโรงแรมและรีสอร์ตดีๆ พร้อมให้บริการ ราคาตามมาตรฐาน เที่ยวได้สบายๆ ไม่ต้องขอวีซ่า ทั้งยังไม่ต้องไปแออัดบนเกาะซานย่า มณฑลไหหลำ ซึ่งในช่วงหน้าเทศกาลราคาสินค้าและบริการแพงมาก มาเที่ยวเมืองไทยดีกว่า และเมื่อมีมาตรการวีซ่า-ฟรีแบบนี้ คาดว่าคนจีนน่าจะเข้าพักโรงแรม 5 ดาวในไทยเต็มไปหมด”

ย้ำโจทย์นายกฯ ฟื้นเชื่อมั่นจีน ‘เที่ยวไทยสนุก-ปลอดภัย’

พอรัฐบาลออกมาตรการวีซ่า-ฟรีแก่ชาวจีนแล้ว มองว่าสเต็ปถัดไปที่ต้องเร่งทำ คือการฟื้นความเชื่อมั่นซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะในช่วงที่ผ่านมามีคลิปวิดีโอบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok แพร่กระจายข่าวลือเชิงลบว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัย จึงต้องการให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐบาลหาวิธีสื่อสารเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ อธิบายแก่ชาวจีนได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเมืองไทยปลอดภัย และคนไทยยินดีต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน

ถ้านายกฯ เศรษฐา มีโอกาสไปเยือนประเทศจีน แอตต้าอยากให้มีการสื่อสารกับผู้นำรัฐบาลจีนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะข่าวลือเชิงลบที่แพร่หลายในโซเชียลมีเดียจีนนั้น เช่นเรื่องลักพาตัวเรียกค่าไถ่ หรือพาไปตัดอวัยวะขายนั้น จริงๆ แล้วไม่ได้เกิดขึ้นในเมืองไทย แต่นานวันเข้า กลับทำให้คนจีนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทำให้ประเทศไทยเสียความน่าเชื่อถือ นายกฯจึงต้องรีบสื่อสารว่าประเทศไทยเที่ยวได้สนุกและมีความปลอดภัย ทางตำรวจท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมดูแลความปลอดภัย ไม่มีปัญหาอะไรต้องกังวล

“ตอนนี้ต้องรีบดึงความเชื่อมั่นกลับมาก่อน เมื่อความเชื่อมั่นกลับมา ประกอบกับมีแรงกระตุ้นจากมาตรการวีซ่า-ฟรี สองแรงแข็งขัน ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวดีขึ้น”

ทั้งนี้ แอตต้าประเมินว่าในช่วงแรกของมาตรการวีซ่า-ฟรี จะมีนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) เดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นการโหมโรงก่อนในไตรมาส 4 นี้ ส่วนตลาดกรุ๊ปทัวร์จีน ปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (อินเซนทีฟกรุ๊ป) มาเที่ยวด้วยและประชุมด้วย เช่น บริษัทขายตรง คาดว่ากรุ๊ปทัวร์จีนจะเริ่มฟื้นชัดเจนจริงๆ ในช่วงต้นปี 2567

 

‘บัญญัติ 10 ประการ’ รีสตาร์ตท่องเที่ยว

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุม ครม. นัดแรก ระบุถึง “บัญญัติ 10 ประการ” รีสตาร์ตภาคการท่องเที่ยวไทยครั้งใหญ่ ให้เป็นเครื่องจักรนำรายได้เข้าสู่ประเทศ หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้งตามแผนควิกวินระยะสั้น ได้แก่ 1.ออกมาตรการวีซ่า-ฟรีเป็นการชั่วคราว แก่จีนและคาซัคสถาน โดยตลาดจีนเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปต่างประเทศ 154 ล้านคน ในตอนนั้นเศรษฐกิจจีนดี ไม่ช้าไม่นานจะทะยานไปแตะ 200 ล้านคนต่อปี ทำให้ประเทศไทยต้องเล็งประเทศจีนซึ่งมีศักยภาพสูงในการเดินทาง

2.ดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ 3.รัฐบาลจะดูแล สร้างความมั่นใจด้านการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยมีแผนดึงดารา ศิลปิน อินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ รวมถึงตัวแทนส่วนราชการของรัฐบาลจีน มาสร้างความมั่นใจผ่านภาพยนตร์ต่างๆ และภาพยนตร์โฆษณา 4.สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลคู่ความร่วมมือ โดยนายกฯ เศรษฐา บอกว่าจะนำคณะเดินทางไปเยือนประเทศเป้าหมาย เพื่อเชิญชวนคนมาเที่ยวไทย

5.กระตุ้นศักยภาพตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการเพิ่มเที่ยวบิน โดยเฉพาะเที่ยวบินไปเมืองรองที่มีศักยภาพสูง อย่างหลายเมืองในจีน เป็นเมืองเอกของมณฑลที่ไม่เคยมีเที่ยวบินตรง (Direct Flight) ไปถึง ทั้งที่มีประชากรในเมืองนั้นๆ จำนวน 30-50 ล้านคน เมืองรองเหล่านี้จึงเป็นสถานีต่อไปที่ต้องไปให้ได้ เช่น นครฉางชุน เมืองเอกของมณฑลจี๋หลิน และเมืองเสิ่นหยาง เมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง

 

เป้าใหญ่ปั้นไทย “ฮับบันเทิงแห่งเอเชีย”

6.เร่งพัฒนาสินค้าการท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน โดยได้หารือกับผู้ประกอบการว่าต้องบริการทุกระดับประทับใจ สร้างความแตกต่าง 7.ส่งเสริมการจัดอีเวนต์ให้การท่องเที่ยวของไทยมีจุดขาย ดึงคนมาเที่ยวตลอด 365 วัน เช่น ยกระดับงานเทศกาลลอยกระทง เทศกาลสงกรานต์ ให้เป็นอีเวนต์ระดับโลก (World Class Event) ไม่ใช่แค่อีเวนต์ระดับท้องถิ่นอีกต่อไป

8.ผู้ประกอบการทัวร์ขานรับแนวทางนี้ พร้อมนำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวและโปรโมชันดึงดูดใจนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9.เป้าหมายใหญ่ของรัฐบาลคือจะส่งเสริมประเทศไทยเป็น “Entertainment Hub of Asia” หรือศูนย์กลางความบันเทิงแห่งเอเชีย และ 10.จากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อความรู้สึกนักท่องเที่ยว (Bad Impression) และมีการส่งต่อแพร่หลายบนโซเชียลมีเดีย ทางรัฐบาลจะตั้งทีม Online Crisis Management เพื่อเข้าไปมอนิเตอร์ ชี้แจงในทันทีทันใด

 

‘สุดาวรรณ’ เข้ากระทรวงท่องเที่ยวฯ 14 ก.ย.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ก.ย.) นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีกำหนดเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดยจะเดินทางถึงเวลา 12.30 น. จากนั้นเข้าสักการะศาลพระภูมิเทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ เวลา 12.39 น. ต่อด้วยการเข้าปฏิบัติหน้าที่ ณ ห้องทำงานรัฐมนตรี เวลา 13.00 น. จากนั้นเวลา 13.20 น. จะลงมายังห้องโถงชั้นล่างของกระทรวงฯ เพื่อพบปะผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แขกผู้มีเกียรติทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสื่อมวลชน