ศึกชิงผู้นำ 'ท่องเที่ยว' แห่งเอเชียระอุ! 'ญี่ปุ่น' ไล่บี้ 'ไทย' ยุคหลังโควิด

ศึกชิงผู้นำ 'ท่องเที่ยว' แห่งเอเชียระอุ!  'ญี่ปุ่น' ไล่บี้ 'ไทย' ยุคหลังโควิด

'ญี่ปุ่น' ท้าดวล 'ไทย' อีกคำรบ ในศึกชิงเจ้า 'การท่องเที่ยว' แห่งเอเชีย! แข่งดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติยุคหลังโควิด-19 นับเป็นอีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ของ 'รัฐบาลเพื่อไทย' ภายใต้การนำของ 'เศรษฐา ทวีสิน' นายกรัฐมนตรี ต้องเร่งเฟ้นมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวอย่างถูกจุดและเร่งด่วน!

ย้อนไปเมื่อปี 2563 หากไม่มีอะไรผิดพลาด จะเป็นปีแรกที่ภาคการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในระดับ “40 ล้านคน” เท่ากับไทย แต่แล้วมหาวิกฤติโควิด-19 ก็พรากทุกอย่างไป!! ดับฝันเป้าหมายใหญ่ 40 ล้านคนในปีดังกล่าว ซึ่งญี่ปุ่นกำลังจะเป็นเจ้าภาพ “โอลิมปิก 2020” เมกะอีเวนต์ระดับแม่เหล็กดึงดูดคนทั่วโลก หลังจากปี 2562 ประสบความสำเร็จ ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าญี่ปุ่นได้มากถึง 31.88 ล้านคน ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ฟากการท่องเที่ยวไทย ในปี 2562 ท็อปฟอร์มถึงขีดสุด! ทำนิวไฮดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยได้มากถึง 39.8 ล้านคน มากกว่าญี่ปุ่นประมาณ 8 ล้านคน โดยก่อนโควิดระบาด “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) เคยตั้งเป้าปี 2563 ดึงนักท่องเที่ยวชาติเข้าไทยอยู่ที่ 40.78 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.5% หวังสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.03 ล้านล้านบาท

ศึกชิงผู้นำ \'ท่องเที่ยว\' แห่งเอเชียระอุ!  \'ญี่ปุ่น\' ไล่บี้ \'ไทย\' ยุคหลังโควิด

หากกดปุ่ม Skip ข้ามการระบาดอันหนักหน่วงช่วง 2 ปีแรก ไทยถือเป็นประเทศแรกๆ ของโลกที่เริ่ม “เปิดประเทศ” รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นำร่องด้วยโมเดล “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” คิกออฟเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564 ก่อนจะ “เปิดประเทศเต็มรูปแบบ” ยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2565 เป็นต้นมา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไต่ระดับจากจุดต่ำสุด 4 แสนคนในปี 2564 เพิ่มเป็น 11.5 ล้านคนในปี 2565

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ระบุว่า “จากการประเมินแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2566 คาดว่าจะมีจำนวน 28-29 ล้านคน สูงกว่าเป้าหมายของ ททท. ซึ่งตั้งไว้ที่อย่างน้อย 25 ล้านคน หากในช่วง 4 เดือนสุดท้าย (ก.ย.-ธ.ค.) ซึ่งเข้าสู่ไฮซีซัน มีเดินทางเข้ามา 3 ล้านคนต่อเดือน ก็น่าจะไปถึงแนวโน้มดังกล่าวได้ หวังกระแสการเดินทางดีต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567 ซึ่งตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 35 ล้านคน ปูทางสู่ภารกิจสร้างรายได้รวมการท่องเที่ยวให้ได้ถึง 25% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2570 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยถึง 80 ล้านคน”

ศึกชิงผู้นำ \'ท่องเที่ยว\' แห่งเอเชียระอุ!  \'ญี่ปุ่น\' ไล่บี้ \'ไทย\' ยุคหลังโควิด

รายงานล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-27 ส.ค. 2566 จำนวน 17,571,069 คน หรือเฉลี่ยมากกว่า 2 ล้านคนต่อเดือน

เมื่อ “วัดฟอร์มเก่ง” ในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.) ของปี 2566 ของภาคการท่องเที่ยวญี่ปุ่นและไทย จากสถิติ ททท. รวบรวม พบว่ามี นักท่องเที่ยวต่างชาติ” เดินทางเข้าไทยจำนวนสะสม 15,391,104 คน โดย 5 อันดับแรกของตลาดที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด อันดับ 1 ยังคงเป็น มาเลเซีย ด้วยจำนวน 2,445,950 คน ส่วนอันดับ 2 คือ จีน 1,852,446 คน อันดับ 3 เกาหลีใต้ 913,168 คน อันดับ 4 อินเดีย 888,807 คน และอันดับ 5 รัสเซีย 856,503 คน

ด้านญี่ปุ่น หลังจากประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2565 ล่าสุดทาง “องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น” (JNTO) รายงานสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ มีจำนวนสะสม 13,032,900 คน ฟื้นตัว 66.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562

ศึกชิงผู้นำ \'ท่องเที่ยว\' แห่งเอเชียระอุ!  \'ญี่ปุ่น\' ไล่บี้ \'ไทย\' ยุคหลังโควิด

โดย 5 อันดับแรกของตลาดที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นสูงสุด อันดับ 1 คือ เกาหลีใต้ 3,755,300 คน ฟื้นตัว 84.9% ส่วนอันดับ 2 ไต้หวัน 2,192,900 คน ฟื้นตัว 74.6% อันดับ 3 สหรัฐ  1,171,000 คน เติบโต 13.5% อันดับ 4 ฮ่องกง 1,126,100 คน ฟื้นตัว 85.7% และอันดับ 5 จีน 908,000 คน ฟื้นตัวเพียง 16.3%

ส่วนตลาดอันดับ 6 ไม่ใช่ใครที่ไหน... คือ “นักท่องเที่ยวไทย” ช่วง 7 เดือนแรกมีจำนวนไปญี่ปุ่นสะสม 547,300 คน ฟื้นตัว 72.3% เมื่อเทียบกับจำนวน 756,797 คนของช่วงเดียวกันเมื่อปี 2562

เฉพาะเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นจำนวน 2,320,600 คน เติบโต 1,505% เทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นยังไม่ได้เปิดประเทศเต็มรูปแบบ แต่ถ้าเทียบกับเดือนเดียวกันเมื่อปี 2562 นับว่าฟื้นตัว 77.6% แล้ว ขณะเดียวกันยังเป็นเดือนที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นเกิน 2 ล้านคน เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน จากเดือน มิ.ย. ซึ่งมีจำนวน 2,073,300 คน

ศึกชิงผู้นำ \'ท่องเที่ยว\' แห่งเอเชียระอุ!  \'ญี่ปุ่น\' ไล่บี้ \'ไทย\' ยุคหลังโควิด

หากเทียบสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้า 2 ประเทศช่วง 7 เดือนแรกแล้ว พบว่า “ญี่ปุ่น” ไล่บี้ “ไทย” ในระยะประชิด! มีจำนวนห่างกันราว 2.4 ล้านคนเท่านั้น น่าจับตาอย่างยิ่งว่าเมื่อปิดตัวเลข ณ สิ้นปี 2566 จะเป็นอย่างไร ช่องว่างจะห่างขึ้นหรือแคบลงกว่าเดิม?! หลัง 2 ประเทศต่างเร่งเครื่องทำการตลาดแย่งชิงนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในไฮซีซันไตรมาส 4 ไม่ลดละ!

เจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) วิเคราะห์ว่า การฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 ของภาคท่องเที่ยวญี่ปุ่นในตอนนี้กำลัง “หายใจรดต้นคอ” ภาคท่องเที่ยวไทยแล้ว! หลังเติบโตดีจากปัจจัย “เงินเยนอ่อนค่า” ทำให้ราคาแพ็กเกจทัวร์ไม่สูงนัก แม้ค่าครองชีพปรับสูงขึ้นก็ตาม

ประกอบกับญี่ปุ่นมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย “เที่ยวได้หมดทุกจังหวัด” การโปรโมตท่องเที่ยว “เมืองรอง” ก็ทำได้ง่ายกว่าของไทย เพราะมีรถไฟไปถึงทั่วประเทศ ขณะเดียวกันยังเป็นประเทศที่มี “ความปลอดภัยสูง” นักท่องเที่ยวต่างชาติเชื่อมั่นในการเดินทาง

ศึกชิงผู้นำ \'ท่องเที่ยว\' แห่งเอเชียระอุ!  \'ญี่ปุ่น\' ไล่บี้ \'ไทย\' ยุคหลังโควิด

รวมถึงหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นวางยุทธศาสตร์แม่นยำ ที่ผ่านมาชัดเจนว่าอยากได้นักท่องเที่ยวตลาด “อาเซียน” ก็ออกมาตรการ “ฟรีวีซ่า” เพื่อดึงดูดการเดินทาง เช่น เวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดดาวรุ่งมาแรง จากสถิติตลาดเวียดนามเที่ยวญี่ปุ่นช่วง 7 เดือนแรก มีจำนวนสะสม 345,700 คน เติบโต 17.6% เนื่องจากญี่ปุ่นมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ดีในการทำตลาด และเวียดนามอยู่ใกล้ สามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้สะดวกด้วย

“ภาคการท่องเที่ยวไทยต้องเร่งยกระดับความเชื่อมั่น โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย นี่คือประเด็นที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญมากที่สุด ขณะเดียวกันในช่วงที่เรามีรัฐบาลใหม่ ภาครัฐและเอกชนก็ต้องมาคุยกัน ลงรายละเอียดแต่ละตลาด ว่าจะกระตุ้นให้มาเที่ยวไทยได้ตรงจุดอย่างไร”