‘พาร์เล่’ บิสกิตเบอร์ 1 อินเดีย ผนึก‘อำพลฟูดส์’ ลุยป่าล้อมเมืองปั้นแบรนด์

อำพลฟูดส์ เดินหน้าเสริมแกร่งการกระจายสินค้า เติม “พาร์เล่” บิสกิตเบอร์ 1 จากประเทศอินเดียเข้าพอร์ตโฟลิโอ ลุยตลาดบิสกิตและขนมหวานในประเทศไทย ติดอาวุธ “ป่าล้อมเมือง” ผ่านจุดแข็งบริษัทที่มีเครือข่ายช่องทางจำหน่ายห้างร้านทั่วไทยกว่า 3 แสนจุดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

อารุป ชัวฮาน Executive Director, Parle Products กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายในการขยายธุรกิจบิสกิตและขนมหวานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ผลักดันสู่การเป็นผู้ผลิตอาหารที่ใหญ่สุดในโลก ต่อยอดอาณาจักรที่ปี 2565 สร้างยอดขายกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันส่งสินค้าเรือธงภายใต้แบรนด์ “พาร์เล่” ทำตลาดกว่า 120 ประเทศทั่วโลก มีการสร้างฐานผลิตกว่า 10 ประเทศ เช่น อินเดีย แคเมอรูน ไนจีเรีย เม็กซิโก และประเทศไทย เพื่อเสิร์ฟสินค้าตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย

เส้นทาง พาร์เล่ เติบโตในตลาดอินเดียมาอย่างยาวนานกว่า 9 ทศวรรษ และแบรนด์บิสกิตสามารถครองใจกลุ่มเป้าหมายในประเทศจนเป็นอันดับ 1 ติดต่อกัน 10 ปี นอกจากนี้ ยังประสบความสำเร็จในตลาดนอกประเทศอินเดียจนเป็น “ผู้นำ” อีกราว 30 ประเทศ

ปี 2565 บริษัทได้เข้ามาบุกตลาดบิสกิตและขนมหวานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมกับสร้างฐานผลิตสินค้า รองรับการเติบโตในระยะยาว พร้อมกันนี้วางกลยุทธ์ทำตลาด สร้างการรับรู้แบรนด์แก่ลูกค้าชาวไทย ด้วยการผนึกพันธมิตร “กลุ่มอำพลฟูดส์” ในการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้า เจาะร้านค้าทั่วไป(Traditional Trade : TT) เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง (Mass) เนื่องจากเชื่อมั่นในศักยภาพและความแข็งแกร่งของเครือข่ายร้านค้าของอำพลฟูดส์

‘พาร์เล่’ บิสกิตเบอร์ 1 อินเดีย ผนึก‘อำพลฟูดส์’ ลุยป่าล้อมเมืองปั้นแบรนด์ สำหรับการทำตลาดบิสกิตในประเทศไทย บริษัทมีเป้าหมายจะก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 5 ผู้นำ หรือ Top 5 ภายใน 3 ปี

ดร.กฤษฎา โสภา ผู้อำนวยการส่วนงานการตลาดและสารสนเทศ กลุ่มอำพลฟูดส์ กล่าวว่า พาร์เล่ เป็นสินค้าแบรนด์ต่างประเทศลำดับที่ 2 ที่บริษัททำหน้าที่ในการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้า เพื่อต่อยอดและสร้างการเติบโตทางธุรกิจ

สำหรับการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้า “พาร์เล่” ประเดิมโปรดักท์เรือธง 6 แบรนด์ ราว 9 รายการ (SKUs) เช่น พาร์เล่ ไฮด์ แอนด์ ซีค และ ทเวนตี้-ทเวนตี้ บิสกิตคุ้กกี้ และพาร์เล่-จี ออริจินัล กลูโค บิสกิต ฯลฯ ซึ่งอย่างหลังถือเป็นสินค้าระดับตำนาน ที่นักท่องเที่ยวไปเยือนอินเดียนิยมซื้อเป็นของฝากให้แก่กัน

แผนการบุกกระจายสินค้า “พาร์เล่” บริษัทใช้กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” อาวุธการตลาดที่สร้างความสำเร็จให้กับหลายผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอ เนื่องจากกลุ่มอำพลฟูดส์ มีศูนย์กลางกระจายสินค้ากว่า 79 แห่ง เครือข่ายร้านค้าทั่วไปถึง 307,608 แห่งครอบคลุมทั้งประเทศ แบ่งเป็นร้านค้าปลีกย่อย 299,829 แห่ง ร้านค้าส่ง 6,749 ราย กลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร บริการจัดเลี้ยงหรือ HoReCa 1,012 แห่ง มีหน่วยรถขายเงินสดหรือแคชแวน 495 คัน จะเพิ่มเป็น 700 คันในอนาคต มีพนักงานหน่วยรถขายเงินสดกว่า 990 คน พนักงานขายเครดิต 116 คน และช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึง “Goodlife” ที่มีคำสั่งซื้อ 100,000 ออเดอร์ต่อเดือน ตอบโจทย์ลูกค้า

‘พาร์เล่’ บิสกิตเบอร์ 1 อินเดีย ผนึก‘อำพลฟูดส์’ ลุยป่าล้อมเมืองปั้นแบรนด์ นอกจากนี้ จะมีการจัดแคมเปญ “Love at First Bite คำแรกก็หลงรัก” สื่อสารการตลาดถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ชื่อชุดว่า “Love at First Bite คำแรกก็หลงรัก” สร้างการรับรู้แบรนด์และสินค้า (Awareness) และกระตุ้นให้เกิดการทดลองสินค้า

สำหรับตลาดบิสกิตและขนมขบเคี้ยวในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 74,000 ล้านบาท เมื่อเจาะลึกเฉพาะหมวดบิสกิตมีสัดส่วนราว 27% หรือมูลค่า 19,980 ล้านบาท ผู้เล่นส่วนใหญ่โฟกัสช่องทางจำหน่ายห้างค้าปลีกสมัยใหม่ 68% ร้านค้าทั่วไป 32% ขณะที่อำพลฟูดส์ จะเสริมแกร่งให้พาร์เล่ในการเข้าถึงช่องทางทั้ง 2 ในสัดส่วน 50% เท่ากัน เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค

“ศักยภาพของกลุ่มอำพลฟูดส์ในการกระจายสินค้าคือการใช้กลยุทธ์ Small Town Strategy หรือป่าล้อมเมือง ให้แก่ร้านค้าท้องถิ่น ห้างค้าปลีกท้องถิ่น การทำตลาดช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา เราเรียนรู้ว่าสินค้าคุณภาพ รสชาติอร่อย การตั้งราคาที่ใช้ ขนาดหรือไซส์บิสกิต ขนมที่เหมาะสม ทำให้เจาะตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญอำพลฟูดส์มีประสบการณ์การทำตลาดในประเทศ จะช่วยเชื่อมต่อระหว่างแบรนด์พาร์เล่และผู้บริโภคชาวไทย ส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จในตลาดเมืองไทยได้”