เป้าท่องเที่ยวของว่าที่นายกฯ | มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด

เป้าท่องเที่ยวของว่าที่นายกฯ | มิ่งสรรพ์  ขาวสอาด

หลังจากที่สภาธุรกิจท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เสนอให้ว่าที่นายกฯ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นพรีเซนเตอร์ให้การท่องเที่ยวไทย นายพิธาก็ได้โพสต์ผ่าน Instagram ชี้เป้าท่องเที่ยวด้วยตัวย่อ T H A I

T-Tranquil tourism เป็นท่องเที่ยวแบบสโลว์ ชิลล์ๆ แบบคนรุ่นใหม่ซึ่งอาจจะรวมไปถึงการท่องเที่ยวแบบไลฟ์สไตล์ ว่าที่นายกฯ ระบุจังหวัดเป้าหมายของกลุ่มนี้คือนครศรีธรรมราช

H-Homestay tourism เป็นการท่องเที่ยวที่มีประสบการณ์ร่วมกับชุมชนและมีการกระจายรายได้ ไปสู่ชุมชนและท้องถิ่นทั่วประเทศ

A-Adventure tourism เน้นไปที่การปีนเขาและจังหวัดที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่ กระบี่ เชียงใหม่ ลำปาง กาญจนบุรี และลพบุรี

I-Indigenous tourism เป็นการท่องเที่ยวที่หาประสบการณ์ร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งประเทศไทยมีหลากหลายสามารถนำเสนอได้ทั้งเรื่องอาหาร (cuisine) วัฒนธรรม (culture) และหัตถกรรม (craft)

ทั้งหมดนี้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวฟังแล้วคงจะดีใจโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อย เพราะเป็นเป้าหมายและกิจกรรมที่เหมาะกับผู้ประกอบการที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะเข้าใจรสนิยมและวิถีของคนรุ่นใหม่ได้ดี

ว่าที่นายกฯ ยังเสนอว่าจะออก “คูปองเมืองรอง” ให้ช่วยกระจายนักท่องเที่ยวไปยังเมืองรอง เช่น แพร่ แม่ฮ่องสอน สตูล พัทลุง และเมืองอื่นๆ

แต่ผู้เขียนอยากจะนำเสนอเป้าหมายและนโยบายที่รัฐบาลใหม่จะต้องจัดการโดยใช้อักษรย่อชุดเดียวกันคือ

T - Trust tourism คือการท่องเที่ยวที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้ หรือการท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบ มีการดูแลนักท่องเที่ยวให้มีความพร้อม มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ในช่วงที่ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากเช่นในปี 2562 เห็นได้ว่าในจังหวัดหลักของเรานั้นมีปัญหาด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยมาก (ตาราง) เช่น ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะเหตุการณ์เรือล่มที่กระบี่

เป้าท่องเที่ยวของว่าที่นายกฯ | มิ่งสรรพ์  ขาวสอาด

หรือในระยะหลังมีข่าวเรื่องตำรวจตบทรัพย์นักท่องเที่ยวและการอุ้มนักท่องเที่ยวเพื่อเรียกค่าไถ่ แต่ความไว้เนื้อเชื่อใจได้นี้ไม่ใช่แค่เรื่องอาชญากรรม แต่ต้องรวมไปถึงความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนน เพราะนักท่องเที่ยวชอบใช้มอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นยานพาหนะที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดในประเทศไทย

นอกจากนั้นยังจะต้องดูแลไม่ให้มีการโก่งราคา หรือเรียกค่าใช้จ่ายที่เกินจริงกับนักท่องเที่ยว เช่น การเรียกเก็บค่าโดยสาร ราคาสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวเข้ามาซื้อหาในเมืองไทย รวมทั้งการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ ด้วย

H - Hygiene tourism คือการบริหารจัดการให้นักท่องเที่ยวอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสุขอนามัยที่ดี บริการอาหารต้องสะอาดและปลอดภัยทั้งในระดับภัตตาคารจนถึงสตรีทฟู้ด

หากนักท่องเที่ยวมีความจำเป็นต้องได้รับการบริการทางการแพทย์ และการทำศัลยกรรมเพื่อความงามหรือแปลงเพศ ก็จำเป็นต้องดูแลให้การบริการมีความปลอดภัยเทียบเท่ามาตรฐานสากล

A - Aegis of tourism environment คำว่า Aegis มีความหมายเดียวกับคำว่า Protection คือการคุ้มครองสภาพแวดล้อมไม่ให้การท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์สร้างต้นทุนทางสังคม และปล่อยให้ประชาชนที่ไม่ได้รับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวเป็นผู้รับภาระ

รัฐอาจจะใช้การเก็บภาษี ที่มักจะเรียกกันว่า ภาษีเหยียบแผ่นดินหรือภาษีข้ามแดนและนำรายได้จากภาษีส่วนนี้มาใช้เพื่อทำนุบำรุงสิ่งแวดล้อม รวมถึง แก้ไขปัญหาขยะในเมืองท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภารกิจที่ต้องใช้งบประมาณสูงมากในการบริหารจัดการ

โดยเฉพาะ อปท. ขนาดเล็กที่ต้องดูแลแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยี่ยมเยือน เช่น อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย   

I - Inclusive tourism คือการท่องเที่ยวที่เกิดอานิสงส์ถ้วนหน้า มีการกระจายจากเมืองหลักไปสู่เมืองรอง เมืองเล็กเมืองน้อย รวมถึงชุมชนต่างๆ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยว

โดยที่รายได้ไม่กระจุกตัวหรือถูกผูกขาดตัดตอนโดยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง  รวมทั้งนโยบายของรัฐก็ควรจะกระจายประโยชน์ไปให้ทุกกลุ่มได้มีโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน 

ในปัจจุบันรายได้จากการท่องเที่ยวกว่าร้อยละ 70 ตกอยู่ใน กทม. และจังหวัดท่องเที่ยวหลักอีก 4 จังหวัด นโยบาย “เที่ยวด้วยกัน” ของรัฐบาลรักษาการตั้งเพดานราคาค่าห้องไว้สูงถึงคืนละ 3,000 บาท

ทำให้รัฐใช้เงินไปกับการอุดหนุนโรงแรมใหญ่ๆ และโรงแรมเชนต่างประเทศด้วย แทนที่จะกระจายส่วนใหญ่ไปสู่โรงแรม 2 ดาว 3 ดาว ซึ่งเป็นโรงแรมของคนไทยและคนท้องถิ่น

เป้าท่องเที่ยวของว่าที่นายกฯ | มิ่งสรรพ์  ขาวสอาด

ส่วนการโปรโมตท่องเที่ยวเมืองรองเพื่อกระจายรายได้เป็นทิศทางที่ถูกต้อง แต่ข้อจำกัดก็คือ การเดินทางโดยเมืองรองไม่มีรถสาธารณะ ดังนั้น จะต้องยอมให้มีรถเช่าส่วนบุคคลเช่น grab เข้ามาเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาโลจิสติกส์ในจังหวัดท่องเที่ยวรอง

เนื่องจากในเมืองรองมักจะมีบริษัททัวร์และบริษัทรถเช่าน้อยมาก รวมถึงควรมีนโยบายสนับสนุนให้เกิด Motor tourism และให้ อปท. ทำ rest area ที่มีมาตรฐานความสะอาดที่เป็นไปตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข และส่งเสริมให้ชุมชนนำสินค้าที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นมาจำหน่ายได้    

ทั้งหมดนี้จึงจะเป็นเป้าหมายและภารกิจสำคัญ และจำเป็นที่รัฐบาลใหม่ไม่ว่านายกฯ จะเป็นใครก็ควรจะต้องทำ!!