'เกาหลี-ไต้หวัน' งัดทีเด็ด! ชิงตลาด 'ไทยเที่ยวนอก' มูลค่า 3 แสนล้าน

โดยประเมินว่าจุดหมายปลายทางที่คนไทยนิยมไปเที่ยวมากอันดับ 1 ในปีนี้คือ “ญี่ปุ่น” จำนวน 1 ล้านคน รองลงมาคือยุโรป 7-8 แสนคน จีน 4 แสนคน ไต้หวัน 3 แสนคน และเกาหลีใต้ 3 แสนคน

ลี ซาง อู ผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) กล่าวเสริมว่า รัฐบาลของเกาหลีและไทยได้ร่วมกันตั้งเป้าหมายให้ปี 2566-2567 เป็น “ปีแห่งการท่องเที่ยวเกาหลี-ไทย” (Korea - Thailand Visit Year) เพื่อกระตุ้นให้คนเกาหลีและคนไทยเดินทางท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศมากขึ้น หลังเมื่อปี 2562 ก่อนวิกฤติโควิด มีนักท่องเที่ยวเกาหลีเดินทางเข้าไทย 1.89 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าเกาหลี 5.7 แสนคน

โดยเริ่มจากงาน “Thailand - Korea Tourism Forum” จะจัดขึ้นที่เกาหลี วันที่ 27 มิ.ย.นี้ มีตัวแทนจากภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วมกิจกรรม อาทิ การอภิปราย รวมถึงการประชุมทางธุรกิจ นอกจากนี้ KTO ยังมีแผนจัดกิจกรรมระหว่างองค์กรธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) และองค์กรธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) ที่ประเทศไทยเช่นกัน เริ่มต้นที่กรุงเทพฯ ภายใต้ชื่องาน “Korea Everywhere” กำหนดจัดในเดือน ก.ย.นี้ และมีแผนจะไปจัดกิจกรรมที่เชียงใหม่และภูเก็ตอีกด้วย

KTO ยังรุกนำเสนอกิจกรรมท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งแพ็กเกจการเดินทาง และแคมเปญส่งเสริมด้านการขาย ใช้วัฒนธรรมของ “K – Culture” เป็นแกนหลักกระตุ้นนักท่องเที่ยว และใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียตลอดปี การสนับสนุนตัวแทนท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นอีกปัจจัยที่เราให้ความสำคัญ ขณะนี้ประสานงานใกล้ชิดกับสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทย

 

KTO ดันเที่ยวเกาหลีแบบ 'พรีเมียม' 

อริญชยา เลิศวัฒนชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด KTO กล่าวเสริมว่า ล่าสุด KTO ร่วมมือกับ “เคทีซี” เปิดตัวแคมเปญ “Only in Korea, Especially for You” เที่ยวเกาหลีมุมมองใหม่แบบ “Premium Travel” มอบประสบการณ์การท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เหนือระดับยิ่งกว่าเดิม! ผ่าน 3 มิติ ประกอบด้วย “วัฒนธรรม” เกาหลีเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน อาทิ ดนตรี การเต้นรำ ละคร และวรรณกรรม ร่วมสัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมท้องถิ่นแบบลึกซึ้ง อาทิ ชมสวนลับที่พระราชวังชางด็อกกุง หรือชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเกาหลี  “อาหาร” ประเพณีการทำอาหารแบบท้องถิ่นยังคงเป็นเสน่ห์สำหรับเกาหลี ร่วมตามรอยร้านอาหารเกาหลีที่มีรสชาติความอร่อยระดับมิชลินสตาร์ ลิ้มรสอาหารเกาหลีเมนูต้นตำรับระดับพรีเมี่ยม นอกจากนี้ยังร่วมสัมผัสและเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีผ่าน “กิจกรรมเพื่อสุขภาพ” อาทิ เปิดประสบการณ์ดูแลผิวพรรณ ด้วยส่วนผสมสมุนไพรระดับตำนานอย่างโสม

 

คาด 'ไทยเที่ยวเกาหลี' ปี 66 ฟื้นตัว 70-80%  

ในยุคหลังโควิด-19 พบว่าช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเกาหลีฟื้นตัวเร็วที่สุดและมีจำนวนมากเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน โดยนักท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว 70-80% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 และตลอดปีนี้ตั้งเป้าฟื้นอย่างน้อย 70-80% ของจำนวน 5.7 แสนคนเมื่อปี 2562 หากเป็นไปได้คาดหวังเห็นการฟื้นตัวสูงสุด 100%

“การรุกทำตลาด Premium ปีนี้ เราคาดหวังการฟื้นตัวในเชิงจำนวน ดึงนักท่องเที่ยวไทยที่เคยไปยุโรป มาเที่ยวเกาหลีแบบพรีเมียมมากขึ้น จากปี 2562 มีนักท่องเที่ยวกลุ่มพรีเมียมเดินทางมาเกาหลีสัดส่วน 20% ของทั้งหมด ซึ่งใช้จ่ายมากกว่า 50,000 บาทต่อทริปเฉลี่ย 5 วัน 4 คืน”

 

'ไทยเที่ยวไต้หวัน' ติด TOP 10 สูงสุดช่วง 3 เดือนแรก

ด้าน เซีย ซิ่ว เม่ย รองผู้แทนประจำสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย กล่าวว่า หลังจาก “ไต้หวัน” เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของไต้หวันได้อย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ต.ค. 2565 ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก สำหรับปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 6 ล้านคน โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไต้หวันแล้วกว่า 2 ล้านราย 

ในขณะที่ 3 เดือนแรก (ม.ค.-มี.ค.) มีนักท่องเที่ยวชาวไทยติด 1 ใน 10 อันดับประเทศที่เดินทางเข้าไต้หวันมากที่สุด! ประมาณ 83,000 คน ฟื้นตัวกว่า 80% เทียบกับช่วงเดียวกันก่อนโควิด-19 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายและคาดว่าตลอดทั้งปีจะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ จากแผนนโยบายและมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องของภาครัฐที่ดำเนินการส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวในทุกรูปแบบ พร้อมทั้งออกกิจกรรมแคมเปญต่างๆ โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย อาทิ นโยบาย “ฟรีวีซ่า 14 วัน” สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย กิจกรรม “Taiwan the Lucky Land” ร่วมลุ้นเงินรางวัลมูลค่า 5,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (NTD) หรือ ประมาณ 5,600 บาท เป็นต้น

 

'จิ่วเฟิ่น' ซิวแชมป์แหล่งเที่ยวสุดฮิตในไต้หวัน ครองใจคนไทย

ซินดี้ เฉิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ กล่าวเสริมว่า ในปีนี้ทางสำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวันได้ทำการสำรวจนักท่องเที่ยวจากไทยด้วยแบบสอบถามความพึงพอใจและความคาดหวังของนักท่องเที่ยวชาวไทย สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในไต้หวันที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.จิ่วเฟิ่น เมืองนิวไทเป 2.พื้นที่ชุ่มน้ำเกาเหม่ย เมืองไถจง 3.ถนนโบราณต้าซี เมืองเถาหยวน 4. ตึกไทเป 101 เมืองไทเป และ 5.ป้อมอันผิง เมืองไถหนาน นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความพิเศษชวนให้ไปสัมผัส

และเพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้รู้จักกับไต้หวันมากยิ่งขึ้น จึงได้แต่งตั้งนักแสดงหนุ่ม “บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์”  เป็น “แบรนด์แอมบาสเดอร์” คนแรกของการท่องเที่ยวไต้หวันประจำประเทศไทยด้วย

 

เปิดแคมเปญ 'ทุกอย่างใช่ โดนใจที่ไต้หวัน'

นอกจากนี้ สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ ยังได้เปิดตัวแคมเปญ “All is just right in Taiwan ทุกอย่างใช่ โดนใจที่ไต้หวัน”ภาพยนตร์โฆษณาที่จะถ่ายทอดเรื่องราวมหัศจรรย์ของไต้หวัน แนะนำสถานที่แห่งใหม่และกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไทยไม่ควรพลาด

ผ่าน 4 แนวคิด ได้แก่ 1. Just Fun ชวนรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในไต้หวัน มีทั้งสถานที่ทางธรรมชาติมากมาย และจุดเช็คอินในเมืองที่นักท่องเที่ยวชาวไทยจะได้เปิดประสบการณ์แบบไม่ซ้ำใคร 2. Just Eat สัมผัสอรรถรสอาหารไต้หวันที่มีความหลากหลายและขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติอร่อย จนได้รับรางวัลจากมิชลิน ทั้งมิชลินสตาร์และรางวัลบิบกูร์มองด์ รวมถึงอาหารท้องถิ่นสไตล์ไต้หวัน

3. Just Shopping ชอปปิงสนุกไม่มีเบื่อกับพิกัดแหล่งชอปปิงในไต้หวันที่รวบรวมของฝาก สินค้าท้องถิ่นและแบรนด์ดังชั้นนำจากทั่วโลก และ 4. Just Feel สัมผัสมนต์เสน่ห์งานเทศกาลต่างๆ วิถีชีวิต และความเป็นมิตรของชาวไต้หวัน