'โอกิลวี่' ระเบิดไอเดียไร้ขอบเขต ตอบโจทย์ลูกค้า โลก ผู้บริโภค ธุรกิจเปลี่ยน
"เอเยนซีโฆษณา" เป็นอีกธุรกิจที่เจอโจทย์โหดหิน ไม่เพียงเผชิญดิสรัปหลากมิติ แต่ความต้องการลูกค้าสูงปรี๊ด แต่เปย์งบน้อย ต้องการผลลัพธ์สูง "โอกิลวี่" พลิกแปร สู่การปรับโครงสร้าง เคลื่อน 5 กลุ่มธุรกิจ ชูทำงานผสานไอเดียสร้างสรรค์แบบไร้ขอบเขต สร้างการเติบโตคู่ลูกค้า
รับหลายปีที่ผ่านมา โลกเผชิญสารพัดแรงถาโถมหรือ “ดิสรัป” ให้ผู้คน ธุรกิจ ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และหาทาง “อยู่รอด”
ธุรกิจเอเยนซี อุตสาหกรรมโฆษณา เป็นอีกหมวดต้องเผชิญความท้าทายต่อเนื่อง จากสื่อเก่ามีสื่อใหม่ทรงพลัง ผู้บริโภคพฤตกรรมเปลี่ยน กลุ่มเป้าหมายแยกย่อย(Fragmented) กว่าเดิม การค้าขายยังเจอแรงกดดันใหม่ สร้างโจทย์ “รักษ์โลก” สร้างความยั่งยืนมากขึ้น ทำให้ความต้องการของลูกค้าที่เป็นสินค้าและบริการ แบรนด์ต่างๆ ไม่เหมือนเดิม
“โอกิลวี่” บิ๊กเนมโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ เป็นอีกองค์กรเขย่าโครงสร้างธุรกิจ สร้างเครื่องยนต์ผลักดันการเติบโตไม่เพียงแค่บริษัท แต่ต้องควงคู่ลูกค้าพันธมิตรเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน
จิรวรา วีรยวรรธน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กำพล ลักษณะจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์ และชาตรี โชคมงคลเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ โอกิลวี่ ประเทศไทย ร่วมเล่าบริบทการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเวลานี้มีหลากมิติ ทั้งชีวิตผู้คน โลกเปลี่ยน และธุรกิจ ซึ่งเกิดขึ้น “เร็ว” และ “แรง”
ตัวแปรดังกล่าว “โอกิลวี่” มองหัวใจการทำงานยุคใหม่ในฐานะเอเยนซีคือต้องมี “ความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้เส้นแบ่ง” (Borderless Creativity)มากขึ้น ทั้งภายในองค์กร ระดับโลก รวมถึงการทำงานร่วมกับลูกค้าแบรนด์ต่างๆ เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกหรือ Impact ทั้งด้านยอดขาย รายได้ ตลอดจน “ผู้บริโภค สังคม และโลก”
ที่ผ่านมา ชีวิตผู้คนเปลี่ยน โดย 80% มองว่าธุรกิจไม่ใช่แค่การขายสินค้าอีกต่อไป แบรนด์จึงต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวก สร้างการกินดีอยู่ดี แรงบันดาลใจความเท่าเทียม สื่อสารการตลาดเพื่อปิดช่องว่างที่อยู่ในใจกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น
“วิสัยทัศน์ใหม่ของเราคือการเป็นครีเอทีฟ แพลตฟอร์ม ใช้ความคิดสร้างสรรค์ สร้างผลกระทบต่อโลก”
แม้มุ่งระเบิดความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขอบเขตในการทำงาน แต่โครงสร้างธุรกิจเพื่อผลักดันการเติบโตขององค์กร ได้แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.โฆษณา 2.ประชาสัมพันธ์ ต่อยอดคอนเทนต์ให้ทรงพลัง ทำให้แบรนด์ลูกค้ามีอิทธิพลต่อโลกใบนี้ได้ 3.การสร้างประสบการณ์ลูกค้า (Experience) เพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในทุกจุดสัมผัสหรือทัชพอยท์ตั้งแต่ต้นจนจบ 4.ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Consulting)ทั้งการทรานส์ฟอร์ม การควบรวมกิจการ ตลอดจนการหาพันธมิตร เพื่อทำงานร่วมหัวจมท้ายกัน และ 5.สุขภาพ(Health) ซึ่งบริษัทมี “โอกิลวี่ เฮลธ์” พร้อมแม่ทัพเอเชียแปซิฟิกมาดูแลตลาดในไทยด้วย
โครงสร้างธุรกิจใหม่ จะส่งผลให้สัดส่วนรายได้บริษัทเปลี่ยน แต่โฆษณาและประชาสัมพันธ์ยังทำเงินมากสุด แต่กลุ่มเร่งโตคือธุรกิจสุขภาพ และการสร้างประสบการณ์ซึ่งจะเห็นบริษัทมีพันธมิตรเสริมแกร่งด้วย
“โฆษณาและพีอาร์เรายังขับเคลื่อนเข้มข้นต่อไป เพราะเป็นจุดที่ทำให้เรามีชื่อเสียง แต่เครื่องยนต์เติบโตคือการสร้างประสบการณ์และธุรกิจสุขภาพ ที่ขยายเป็นเท่าตัว การปรับโครงสร้างครั้งนี้จึงความสามารถของกลุ่มธุรกิจที่เป็นโอกาสในอนาคต ทั้งของลูกค้า และของบริษัท”
โอกิลวี่ ยังมี 3 กลยุทธ์ เพื่อสร้างความสำเร็จให้กับลูกค้า ประกอบด้วย 1.Impact Thinking การสร้างสรรค์กลยุทธ์เพื่อให้เป็นโซลูชั่นทางธุรกิจ มีการใช้ข้อมูล(Data)มากมาย เพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์หลากมิติ ทั้งสร้างการรับรู้หรือการเข้าใจ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย
“ตอนนี้การทำงานเปลี่ยนระดับควอนตัมหรือแบบฉับพลันยิ่งใหญ่และแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การวางแผนกลยุทธ์ต้องใช้ดาต้าหลากหลายจุด เพื่อทำให้ผลลัพธ์ออกมาเกินความคาดหมาย”
2.Impact Context การพัฒนากลยุทธ์ที่คำนึงถึงบริบทและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยการผนวกคอนเทนต์ และบริบทความเปลี่ยนแปลง ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างถูกที่ถูกเวลา ยุคนี้แคมเปญสื่อสารการตลาดที่สำเร็จได้ ไม่พึ่งแค่คอนเทนต์แต่ต้องวางผ่านสื่อในบริบทที่เหมาะสม สามารถไหลไปตามแพลตฟอร์มต่างๆได้
และ3.Impact Result การพัฒนากลยุทธ์ที่ดึงความโดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างสังคม ผู้คนและโลก
“การสร้างผลกระทบเชิงบวก รางวัล(จากผลงานโฆษณาต่างๆ)ลูกค้าก็อยากได้ แต่ปลายทางต้องมียอดขาย ผู้บริโภคและโลกด้วย"